ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สายการบินหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ความต้องการเดินทางยังไม่ลดน้อยลง แม้เงินเฟ้อพุ่งสูงสุด ความกดดันจากราคาน้ำมันในปีนี้ก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน

 

การเดินทางทั่วโลกที่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการระบาดของโรคโควิด-19 โดยราคาตั๋วโดยสารปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาตั๋วโดยสารจะฉุดการเดินทางให้ลดลงตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้และลากยาวไปจนถึงปีหน้า แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอน และการออมภาคครัวเรือนทั่วโลกจะลดลง

 

ขณะที่มีหลายคนตั้งคำถามในใจว่า การเดินทางที่คึกคักแบบนี้จะดำเนินไปนานแค่ไหน บรรดาผู้เล่นในธุรกิจสายการบิน โรงแรมและบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า การเดินทางยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แทนที่การจับจ่ายซื้อหาสิ่งของของผู้คนทั่วโลก   

 

 

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) เพิ่มคาดการณ์ อุตสาหกรรมการบินมีกำไรในปี 2566 มากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้สู่ระดับ 9,800 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 4,700 ล้านดอลลาร์

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สายการบินหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ความต้องการเดินทางยังไม่ลดน้อยลง แม้เงินเฟ้อพุ่งสูงสุด ความกดดันจากราคาน้ำมันในปีนี้ก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน

 

'วิลลี วอลช์' ผู้อำนวยการไออาต้า กล่าวว่า พรมแดนหลายประเทศเปิดเป็นปกติแล้ว แต่อัตรากำไรสุทธิที่ 1.2% ยังคงต่ำเกินไปที่จะรับประกันความแข็งแกร่งทางการเงินในระยะยาวของอุตสาหกรรมการบิน

 

ทั้งนี้ รายได้อุตสาหกรรมการบินในปี 2566 เติบโตเกือบถึงระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ 8.03 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ในปี 2562 มีรายได้อยู่ที่ 8.38 แสนล้านดอลลาร์

 

วอลช์ กล่าวว่า “ผู้คนจำนวนมากไม่เพียงแค่จำเป็นต้องเดินทางเท่านั้น แต่ต้องการท่องเที่ยวด้วย และจะเดินทางต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้นเนื่องด้วยการจ้างงานอยู่ในระดับสูง แม้เศรษฐกิจมหภาคชะลอตัวลง จึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า พวกเขาสามารถใช้เงินได้ สามารถก่อหนี้ได้บางส่วน เพื่อเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่ทำอยู่”

 

ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวอย่าง Amadeus มองว่า ความต้องการเดินทางทั่วโลกยังคงคึกคักไปจนถึงปีหน้า พร้อมทั้งเผยแพร่ผลสำรวจล่าสุดที่ระบุว่า 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าการเดินทางไปต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำในปี2566 และ 2567 เทียบกับ 42% ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในการสำรวจก่อนหน้า Amadeus ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแก่นักเดินทางทั่วโลกทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ เยอรมนี และสิงคโปร์ 

 

แนวโน้มดังกล่าวช่วยให้บริษัทด้านการเดินทางมีผลกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น รวมทั้งบรรดาบริษัทให้บริการด้านการเดินเรือสำราญอย่างเช่น โรยัล แคริเบียน ที่รายงานผลประกอบสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ส่วนบริษัทให้บริการด้านการเดินทางอย่าง บุ๊กกิ้ง โฮลดิงส์ และแอร์บีเอ็นบี เปิดเผยว่า รายได้บริษัทเพิ่มขึ้น 27% และ 18% ตามลำดับ ส่วนสายการบินชั้นนำอย่างเดลต้า และเชนโรงแรมชื่อดังอย่างแมริออต  อินเตอร์เนชั่นแนล ก็คาดการณ์ว่าความต้องการใช้บริการห้องพักและยอดผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอนาคต    

 

การเดินทางที่คึกคักมีขึ้นในช่วงที่ราคาค่าตั๋วโดยสารปรับตัวขึ้น โดยไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานผลการวิเคราะห์ล่าสุดของบริษัทวิจัยอุตสาหกรรมการบิน “ซีเรียม” ที่บ่งชี้ว่า ราคาตั๋วเครื่องบินในกว่า 600 เส้นทางทั่วโลกในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 27.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเวลา 15 เดือน

 

ข้อมูลนี้ได้จากการสำรวจราคาตั๋วเครื่องบินในเส้นทางยอดนิยมทั่วโลก โดยใช้ค่าโดยสารเที่ยวเดียวโดยเฉลี่ยในชั้นประหยัด ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า ราคาตั๋วเครื่องบินในหลายเส้นทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากระดับก่อนโควิด-19

ราคาตั๋วเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการส่งต่อต้นทุนของสายการบินไปยังผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่พุ่งสูงในตลาดโลก ค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ปัญหาขาดแคลนเครื่องบิน รวมถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่เพิ่มภาระต้นทุนให้กับสายการบินที่ให้บริการระหว่างประเทศ

 

ลุฟท์ฮันซา  สายการบินเยอรมนี คาดการณ์ว่า ยอดจองตั๋วโดยสารในช่วงที่เหลือของปีจะสูงกว่า 90% ของระดับก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และฤดูร้อนขยายไปจนถึงเดือนต.ค. ส่วนสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ กำลังเพิ่มเที่ยวบินใหม่ๆในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีจุดหมายปลายทางไปยังกรุงมะนิลา ฮ่องกง ไทเป และโตเกียว

 

ด้านมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับชั้นนำโลก คาดการณ์ว่า ความต้องการเดินทางทั่วโลกจะขยายตัว 22% ในปีนี้ และในปีหน้าจะขยายตัว 6% ส่วนราคาค่าตั๋วโดยสารที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง 

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 11 สิงหาคม 2566