ความสิ้นหวังของไทย ในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม
ยังไม่ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตในห่วงโซ่อุปทานและแนวโน้มความต้องการใหม่ของโลก
ในขณะที่ต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคาสินค้านำเข้า ส่งผลให้ต้องลดกำลังการผลิต ลดการจ้างงาน หรือปิดตัวลง สะท้อนให้เห็นจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดระดับลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 60%
ช่วงที่ภาคการผลิตไทยเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก เทคโนโลยีใหม่ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น การปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรม หรือการปรับโครงสร้างภาคการผลิตเป็นอีกประเด็นที่ควรได้รับความสำคัญสูงสุดจากรัฐบาล
แต่กลับพบว่าเป็นนโยบายที่ไม่ค่อยได้รับการกล่าวถึงหรือให้ความสำคัญจากฝ่ายบริหาร ซึ่งยังไม่ค่อยได้รับทราบความชัดเจนในเรื่องนี้จากกระทรวงอุตสาหกรรมมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว รวมถึงรัฐบาลปัจจุบันที่ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ที่ผ่านมาแม้ว่าสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้เสนอปรับโครงสร้าง 9 อุตสาหกรรมแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล และรัฐบาลเห็นว่าไม่ตอบโจทย์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมพลาสติก, อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์, อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะการ, อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ, อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมฐานชีวภาพ, อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
หากพิจารณาในรายละเอียดจะเห็นว่าการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาและกำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
อีกส่วนเป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่เคยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุค labor intensive เช่น อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงครอบคลุมอุตสาหกรรมที่ไทยเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นทั้งการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และการต่อยอดอุตสาหกรรมดั้งเดิม
น่าเสียดายที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการที่ประเทศไทยติดอยู่ในกับดักประเทศระดับรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) มาเป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดสมัยใหม่
ความคาดหวังประเด็นดังกล่าวต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันแทบเป็นไปไม่ได้ เมื่อโจทย์ของรัฐบาลในปัจจุบันไม่มีประเด็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่จริงจัง และแทบมองไม่เห็นทิศทางการปรับโครงสร้างการผลิตหรือโครงสร้างอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันได้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 11 สิงหาคม 2568