"การท่องเที่ยว" ไม่ใช่แค่การพักผ่อนหย่อนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็น "เครื่องยนต์สำคัญ" ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยในปี 2567 คาดการณ์ว่า "ท่องเที่ยว" จะมีส่วนสร้างรายได้จีดีพีโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราว 370 ล้านล้านบาท

 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลของ สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ว่า สัดส่วนการใช้จ่ายทั่วโลกสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2567 “จะสูงเป็นประวัติการณ์” โดยมีการใช้จ่าย 1 ดอลลาร์ในทุกๆ 10 ดอลลาร์ เนื่องจากผู้คนต่างจองโรงแรม เรือสำราญและเที่ยวบินกันอย่างคึกคัก

 

เป็นที่คาดว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะมีส่วนร่วมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โลกเพิ่มขึ้นอย่างสูง เนื่องจากผู้บริโภคมองว่า “การท่องเที่ยว” เป็นส่วนสำคัญในการใช้จ่ายมากขึ้น โดย WTTC ประมาณการว่า ส่วนร่วมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อจีดีพีโลกในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 11.1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 370 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของ GDP โลก โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 7.5% จากสถิติเดิมที่ทำไว้ในปี 2562

 

“แม้จะมีความกังวลบางอย่างเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับการที่เราจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกและอัตราเงินเฟ้อสูง แต่ในปีนี้เรากำลังมองว่าการท่องเที่ยวเป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจระดับโลกอย่างแท้จริง” จูเลีย ซิมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ WTTC ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรกล่าว อีกทั้งคาดว่า การใช้จ่ายการท่องเที่ยวในสหรัฐ จีน และเยอรมนี จะมีส่วนร่วมต่อจีดีพีมากที่สุด

 

นอกจากนี้ เป็นที่คาดว่าภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะช่วยสนับสนุนงานเกือบ 348 ล้านตำแหน่งในปี 2567 เพิ่มขึ้น 13.6 ล้านตำแหน่งเมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 อีกทั้งอุตสาหกรรมยังคงรับสมัครเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานในสาขาที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

สำหรับสหรัฐ ในปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่าง 1 ล้านตำแหน่งในอุตสาหกรรมการพักผ่อนหย่อนใจและการต้อนรับ ตามข้อมูลจากสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐ และการจ้างงานทั้งหมดที่สนับสนุนในสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 27 ล้านตำแหน่งในปี 2566 ตามข้อมูลจาก WTTC

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 4 กันยายน 2567