ท่องเที่ยวไฮซีซั่น’67 บวกแรง ! โรงแรมเผยยอดบุ๊กกิ้งล่วงหน้า 4-6 ดาว เปรี้ยงปร้าง ราคาดีขึ้น AOT ชี้ไตรมาสสุดท้ายผู้โดยสารสุวรรณภูมิพุ่ง 2 แสนคนต่อวัน "ยุโรป-อินเดีย-เกาหลี" มาดีเกินคาด "กรุงเทพฯ" ติดท็อป 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยม ททท.คาดไตรมาสสุดท้ายทะลุ 10 ล้านคน

 

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) บริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ภายใต้แบรนด์ อมารี (Amari) โรงแรมระดับ 5 ดาว โอโซ่ (OZO) โรงแรมระดับ 3.5-4 ดาว และชามา (Shama) แบรนด์เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมใประเทศไทยขณะนี้กลับมาบวกอย่างชัดเจนหลังผ่านวิกฤตโควิด-19

 

โรงแรมทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ฟื้นตัวดีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ กล่าวคือ ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวยุโรปและรัสเซียกลับมา น่าจะเกิน 100% ผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันของโรงแรมในเครือออนิกซ์ 2 แห่งที่ภูเก็ต มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยกว่า 90% ขณะที่ราคาห้องพักก็กำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ไฮซีซั่นปีนี้ ผมว่าโรงแรมตั้งแต่ระดับ 4 ดาวไปจนถึงโรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ยอดบุ๊กกิ้งเปรี้ยงปร้างกว่าปี 2 ปีที่ผ่านมาแน่นอน ตอนนี้เราก็เริ่มเห็นยอดบุ๊กกิ้งล่วงหน้าไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว โดยเฉพาะโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ทำให้มั่นใจว่าไฮซีซั่นปีนี้เราจะได้ทั้งอัตราการเข้าพักที่สูง และราคาห้องพักในระดับที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน” นายยุทธชัยกล่าว

 

สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า ตลาดยุโรป อินเดีย และเกาหลี มีแนวโน้มที่ดีมาก ส่วนตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง คาดว่าจะเติบโตตามคาดการณ์

 

AOT ติดตั้งระบบออโต้รองรับ :

 

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า AOT ประเมินว่าภาพรวมของไฮซีซั่น หรือไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดชาติจีน (Golden Week) เป็นต้นไป ผู้โดยสารรวมจะกลับมาได้เทียบเท่ากับจำนวนในปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด โดยคาดว่าเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีจำนวนผู้โดยสารกลับมาแตะที่ระดับ 2 แสนคนต่อวัน

 

โดยปีนี้ AOT ได้เตรียมตั้งรับอย่างเต็มที่ เนื่องจากในปี 2562 นั้นมีปัญหาเรื่องของให้บริการทั้งในด้านกระบวนการเช็กอิน ตรวจค้น และขั้นตอนการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนติดตั้งระบบ Self Check-in หรือเช็กอินด้วยตัวเองผ่านระบบของสายการบิน ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ หรือ Self Bag Drop เพื่อให้ผู้โดยสารไม่ต้องไปรอคิวที่หน้าเคาน์เตอร์ รวมถึงระบบ Auto Gate ที่เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการผ่าน ตม.

 

ส่วนท่าอากาศยานอื่น ๆ เช่น ท่าอากาศยานดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ ฯลฯ ก็คาดว่าจะกลับมาอยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน โดย AOT ได้เตรียมติดตั้งระบบ Auto Gate กระจายไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ด้วย

 

“เราค่อนข้างมั่นใจว่าการให้บริการจะเร็วกว่าช่วงไฮซีซั่นของปี 2562 และปัญหาความแออัดต่าง ๆ จะอยู่ในระดับที่เราสามารถบริหารจัดการได้ โดยได้ตั้ง KPI ไว้ว่าตั้งแต่กระบวนการเช็กอิน ตรวจค้น และผ่านด่าน ตม. จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที พร้อมทั้งได้กำชับในเรื่องของกระบวนการและวิธีการบริหารจัดการในทุกท่าอากาศยานเพื่อให้มั่นใจว่าเรามีบริการที่ดี และรองรับการเดินทางในช่วงพีกได้” ดร.กีรติกล่าว

 

จีนยังแห่เข้าดอนเมือง-สุวรรณภูมิ :

 

ล่าสุดเริ่มเห็นแนวโน้มของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น จากปกติประมาณ 20-25% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมาก ขณะที่สายการบินต่าง ๆ ก็เริ่มจองสลอตการบินเข้ามาทั้งที่เป็นเที่ยวบินปกติและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์)

 

“ในช่วงตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน-ประมาณวันที่ 10-15 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันหยุดชาติจีน หรือ Golden Week จำนวนชาร์เตอร์ไฟลต์เข้ามาสูงกว่าระดับปกติประมาณ 25% นับเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง” ดร.กีรติกล่าว

 

สอดคล้องกับข้อมูลของอโกด้า แพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ชั้นนำระบุว่า จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสำหรับประเทศไทยนั้นยังคงเป็นกรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยติดอันดับ 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงวันหยุดยาว วันชาติจีน (Golden Week) ซึ่งตรงกับวันที่ 1-7 ตุลาคม 2567 นี้ มียอดการค้นหาที่พักในต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นสูงถึง 137% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

แอร์ไลน์แห่จองสลอตฤดูหนาว :

 

ข้อมูลสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ที่เปิดเผยว่า กพท.ได้เข้าร่วมประชุม Slot Conference ครั้งที่ 154 (SC154) ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย (กิจกรรมใหญ่ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA) เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีสายการบินกว่า 70 สายจากทั่วโลกเข้าพบเพื่อเจรจาขอรับการจัดสรรเวลาการบินในกำหนดการบินตารางบินฤดูหนาว 2567/2568 (Winter Slot 2024) ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2567-29 มีนาคม 2568

 

โดยแจ้งความประสงค์ทั้งขอรับการจัดสรรเวลาการบินเที่ยวบินแบบประจำ ทั้งเที่ยวบินรับขนผู้โดยสารและเที่ยวบินขนส่งสินค้า และมีทั้งขอรับการจัดสรรเที่ยวบินใหม่และขอปรับเวลาการบิน ทั้งนี้ สนามบินหลักที่เป็นจุดหมายปลายทางในประเทศไทย คือ สนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, ภูเก็ต และเชียงใหม่ เช่น สายการบินกลุ่มยุโรป ได้แก่ สายการบิน Air France, Austrian Airlines, British Airways, Condor, Finn Air, ITA Airways, SAS, Lot Polish Airlines, Norse Atlantic Airways, Aerologic, DHL

 

สายการบินกลุ่มอเมริกาเหนือ ได้แก่ Air Canada, FedEx สายการบินกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก เช่น ประเทศอินเดีย ได้แก่ Air India, Air Vistara, Indigo, SpiceJet, Air India Express ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Japan Airlines, All Nippon Airways, Peach Aviation, Nippon Cargo ประเทศเกาหลีใต้ ได้แก่ Korean Air, Asiana Airlines, Eastar Jet, Jin Air, Jeju Air, T’way

 

ประเทศจีน ได้แก่ China Eastern Airlines, China Southern Airlines, Spring Airlines, Juneyao Airlines, Shenzhen Airlines, Shandong Airlines, Hainan Airlines, Okay Airways สายการบินกลุ่มตะวันออกกลาง ได้แก่ Emirates, Etihad Airways, Qatar Airways, Oman Air, Air Arabia

 

สมุยจองตั๋วล่วงหน้าโต 35% :

 

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยว่า ยอดการสำรองที่นั่งบัตรโดยสารล่วงหน้า หรือ “Advance Booking” ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในทุกเส้นทาง (สมุยมีสัดส่วน 65%) พบว่า ยอดจองล่วงหน้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีประมาณ 13% โดยไตรมาส 2 เติบโตขึ้น 3% ไตรมาส 3 เติบโตขึ้น 11% ส่วนไตรมาส 4 นี้พบว่าเฉพาะเส้นทางสมุยมียอดการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเติบโตเพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนการจัดหาเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 319 เข้ามาเพิ่มในฝูงบินภายในปีนี้อีกจำนวน 2 ลำ จากจำนวน 24 ลำ เพื่อเป็นการรองรับดีมานด์การเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

 

บูสต์รายได้รวม 3.5 ล้านล้าน :

 

ด้านนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม-22 กันยายน 2567 จำนวน 25.41 ล้านคน คาดการณ์ว่าใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอีกกว่า 10 ล้านคน และจะสามารถมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมที่ 36.7 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายปีนี้

 

“ททท.ได้เร่งดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้ให้ความสำคัญต่อการกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย” นางสาวฐาปนีย์กล่าว

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 29 กันยายน 2567