จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ระบุว่า ตั้งแต่ 1 มกราคม-20 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียสะสมรวม 3.98 ล้านคน สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวน 5.56 ล้านคน

 

โดยจากการสำรวจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา ในไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียนิยมเดินทางเข้ามาเป็นกลุ่ม 4-5 คนต่อทริป มีอัตราการพักแรมประมาณ 2-3 วันต่อทริป

 

และมีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศไทย (รวมค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน) 15,584 บาทต่อคนต่อทริป โดยประมาณ 60% นิยมเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา 83% นิยมพักค้างคืนในเมืองหาดใหญ่ (สงขลา) และ 93% เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อน

 

จากแนวโน้มดังกล่าวนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย จึงร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างกันในกลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถข้ามแดนไทย-มาเลเซีย (Cross-border Tourism) ณ ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา

 

ทั้งนี้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเปิดตัวเส้นทาง Self-Drive และกิจกรรมท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันรวมไม่น้อยกว่า 7 ล้านคนในปี 2567

 

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมุ่งขับเคลื่อนนโยบายการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยการพัฒนา ส่งเสริม และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในกรอบความร่วมมืออาเซียน

 

โดยมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางไปมาหาสู่กับไทยอยู่เสมอ และปัจจุบันเป็นตลาดที่มาเยือนไทยมากที่สุด ติดอันดับ Top 3 โดยตั้งแต่ 1 มกราคม-23 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยแล้วกว่า 4 ล้านคน โดยร้อยละ 49 เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา

 

“จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและมาเลเซียจะร่วมกันส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศเดินทางระหว่างกันได้สะดวกขึ้น โดยในปี 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียในปีนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนด้วยเช่นกัน รวมแล้วคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างกันไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน”

 

เช่นเดียวกับ “ดร.ยัสมิน ยาซิม” รองเลขาธิการใหญ่กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย ที่บอกว่า กิจกรรมดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่าง 2 ประเทศตามที่วางไว้ โดยมาเลเซียเตรียมการประกาศให้ปี 2569 เป็นปีท่องเที่ยวมาเลเซีย (Visit Malaysia 2026) ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกไม่น้อยกว่า 35.6 ล้านคน และเชื่อว่าการท่องเที่ยวข้ามชายแดนจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและมาเลเซีย

 

ทั้งนี้ มาเลเซียมุ่งส่งเสริมให้มีการอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางข้ามชายแดน และมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทยและประเทศสมาชิกทั้งภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน (ASEAN) และ Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) ตลอดจนสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไป

 

กิจกรรม Thailand-Malaysia Self-Drive Tourism ในกลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถข้ามแดนไทย-มาเลเซียครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีในการต้อนรับไฮซีซั่นท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ

 

และขับเคลื่อนประเทศไทยเป็น ASEAN Hub โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตามนโยบาย IGNITE Tourism Thailand ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 27 ตุลาคม 2567