ททท. ชี้ 2 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทย 6.35 ล้านคนแล้ว พร้อมตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศให้สูงถึง 1.16 ล้านล้านบาทในปีนี้

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องในปี 2568 หลังจากที่ประสบวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ในงานการประชุมสมาชิกร่วมระหว่างสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) ประจำปี 2568 ครั้งที่ 21 ในหัวข้อ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” ว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 ประเทศไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ถึง 6.35 ล้านคน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

 

จากตัวเลขที่กล่าวมานั้น แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจากจีน, อินเดีย, ไต้หวัน, มาเลเซีย และตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่เริ่มกลับมามีการเติบโตอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทย

 

ตั้งเป้าต่างชาติเข้าไทยถึง 38.31 ล้านคนในปีนี้ :

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวต่อว่า ททท.ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ถึง 38.31 ล้านคนในปี 2568 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึง 1.85 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน โดยการพัฒนาเส้นทางการบินใหม่ ๆ และการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งตลาดใกล้และระยะไกล

 

ในด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ททท.ยังได้ตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวภายในประเทศเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งหมด 203.04 ล้านคน-ครั้ง และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ถึง 1.16 ล้านล้านบาท การกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจโดยรวม และเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความสนใจในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ททท.ได้ส่งเสริมเมืองรองและเมืองใหม่ เช่น กระบี่, หาดใหญ่ และหัวหิน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

 

สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี 2568 ททท.จะมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าจากการท่องเที่ยวในรูปแบบที่มีมูลค่าสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, และการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม เพื่อเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

 

การปรับตัวของกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอบรับพฤติกรรมใหม่ของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปหลังวิกฤตโควิด-19 ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ททท.มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีและความสะดวกสบาย พร้อมทั้งเสริมสร้างความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมใหญ่ ๆ เช่น มอเตอร์สปอร์ตและเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในช่วงนอกฤดูกาลเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาด

 

นอกจากนี้ ในด้านการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2568 นี้ยังคงต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ, เอกชน, ธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ การส่งเสริมประสบการณ์ที่น่าสนใจ และการเสริมสร้างระบบการเก็บข้อมูลการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การท่องเที่ยวไทยในปีนี้ยังจะได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะการจัดคอนเสิร์ตใหญ่จากศิลปินระดับโลก เช่น ลิซ่า นักร้องชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งจะช่วยเปิดตลาดนักท่องเที่ยวในกลุ่มแฟนเพลงทั้งในและต่างประเทศ

 

“รัฐบาลยังร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ เช่น “ไวท์โลตัส” ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับลักเซอรี่มาที่ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการพัฒนา เช่น ภูเก็ต สมุย และกรุงเทพฯ การเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการจะช่วยเสริมความดึงดูดใจให้กับนักท่องเที่ยว” นางสาวฐาปนีย์กล่าว

 

การพัฒนาสนามกีฬาเพื่อรองรับกิจกรรมระดับนานาชาติอย่างมอเตอร์สปอร์ตหรือคอนเสิร์ตในระดับใหญ่ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในระยะยาว เช่น การพัฒนาอารีน่า หรือสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้ชมได้จำนวนมาก

 

การพัฒนาเส้นทางการบินใหม่ ๆ โดยเฉพาะจากตลาดอินเดีย ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ โดยมีสายการบินใหม่ ๆ เช่น อินดิโก้ ที่จะเชื่อมต่อประเทศไทยกับเมืองสำคัญในอินเดีย รวมถึงการเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ สู่เชียงใหม่ กระบี่ และหัวหิน

 

อย่างไรก็ตาม ททท.เชื่อว่าการท่องเที่ยวจากจีนซึ่งกลับมาเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับไทย ด้วยนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็น 80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2568 ยังเป็นส่วนสำคัญที่รัฐบาลและผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมรองรับ การขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศและการเสริมสร้างบริการให้เหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวจีนจะช่วยผลักดันการเติบโตต่อไป

 

การร่วมมือจากทุกภาคส่วนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ การยกระดับบริการ และการพัฒนาระบบคมนาคมเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ตั้งไว้ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568