KEY POINTS

* “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) นำทัพเอกชนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศร่วม 160 ราย

* บุกงานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลก “Internationale Tourismus Borse” หรือ “ITB Berlin 2025” ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. 2568 ณ เบอร์ลิน เอ็กซ์โปเซ็นเตอร์ ซิตี้ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

* เร่งโปรโมต “เสน่ห์ไทย” ในทุกมิติ ดันเป้าหมายนักท่องเที่ยว “ตลาดระยะไกล” เดินทางเข้าประเทศไทยตลอดปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” สร้างรายได้สู่ระดับ 8.7 แสนล้านบาท

 

 

สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า งาน ITB Berlin 2025 ครั้งนี้มีความพิเศษกว่าทุกปี โดยได้ขยายขนาดพื้นที่คูหาของประเทศไทยจากขนาด 540 ตารางเมตร เป็น 1,820 ตารางเมตร หรือขนาด 1 Hall ของ ITB Berlin เพื่อให้สอดรับกับการประกาศให้ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 และขับเคลื่อนนโยบาย “Ignite Tourism Thailand” ผลักดันประเทศไทยสู่ตลาดโลก

 

“จำนวนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในครั้งนี้ 160 รายจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยว เรียกว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ไทยเข้าร่วมงาน ITB Berlin เป็นครั้งที่ 50 เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการไทยในการรุกตลาดยุโรป ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวศักยภาพที่มีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยนาน และมีการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง ให้มุ่งสู่เป้าหมายในปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลรวม 10.6 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 8.7 แสนล้านบาท”

 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในครั้งนี้ ททท.นำผู้ประกอบการเข้าร่วมสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีจำนวนถึง 160 ราย ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก 88% บริษัทที่ดำเนินการจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ท่องเที่ยว (DMC) 8% และอื่นๆ 4%

 

 

เหตุผลที่ในปีนี้ ททท.ขยายพื้นที่คูหาประเทศไทยเต็มทั้งฮอลล์ ด้วยนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” มีนโยบายให้เพิ่ม “พื้นที่การสร้างโอกาส” (Opportunity Area) แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน “เมืองน่าเที่ยว” ที่ไม่เคยได้มาร่วมงานนี้ ได้เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก จึงมีการจัดโซนเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) เป็นพื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจจากเมืองน่าเที่ยว 17 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะ

 

และในวันที่ 5 มี.ค. นายกฯ แพทองธารจะเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 โดยแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต่างประเทศเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแถลงนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พร้อมประกาศว่าในปี 2568 ประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 รวมทั้งจะร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานด้วย

 

 

สำหรับผู้ประกอบการจาก “เมืองน่าเที่ยว” ประกอบด้วย 

 

ภาคเหนือ 7 ราย :

ได้แก่ The Legend Chiang Rai Boutique River Resort and Spa จ.เชียงราย, โรงแรมแสงปอยคอทเทจ จ.แม่ฮ่องสอน, บ้านชมปรางค์ Chomprang House จ.สุโขทัย, Nan Boutique Hotel and Resort จ.น่าน, แพร่ทราเวล โดย บริษัท ลายโมทีป จำกัด จ.แพร่, โรงแรมทรีธารา จ.ลำปาง 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ราย :

ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิวเวฟทราเวล จ.หนองคาย, บริษัท ธนาทิพย์ 456 จำกัด จ.อุดรธานี, เฮือนหลวงพระบาง จ.เลย, โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว และโรงแรมฟอร์จูน วิวโขง จ.นครพนม

 

ภาคตะวันออก 4 ราย :

ได้แก่ บริษัท มณีจันท์รีสอร์ท แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด จ.จันทบุรี, The Mak Trat จ.ตราด, บริษัท วังตะพาบรีสอร์ท จำกัด จ.ปราจีนบุรี, La Villa Boutique Hotel จ.สระแก้ว 

 

ภาคใต้มี 3 ราย :

ได้แก่ Mook Lamai Resort จ.ตรัง, AaVa Resort&Spa จ.นครศรีธรรมราช, เดอะ ชีวาเล่ย์ บีช รีสอร์ท จ.สตูล นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสตาร์ตอัป 1 รายคือ บริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด ผู้ให้บริการ Local Alike แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน

 

ขณะที่ไฮไลต์ของพื้นที่ประเทศไทยในงานนี้อยู่ที่การนำเสนอ “เสน่ห์ไทย” ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “5 Must do in Thailand” ควบคู่ไปกับการนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ “ความยั่งยืน” ที่กำลังเป็นกระแสการท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วโลก รวมถึงนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ “Travel Tech” 

 

โดยได้เปิดตัว TATAI ตู้ 3D hologram ที่ใช้เทคโนโลยี AI (TATAI) ประมวลผลข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวไทยในรูปแบบดิจิทัลจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวผ่านการสนทนาบนเว็บไซต์ คาดว่าจะตอบโจทย์ความสนใจของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากกว่า “180 ประเทศทั่วโลก” ที่เข้าร่วมงาน และเป็นอีกแรงส่งสำคัญในการผลักดันตลาดการท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

 

 

ด้านสถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 23 ก.พ. 2568 จำนวน 2.34 ล้านคน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป 1.85 ล้านคน อเมริกา 3.1 แสนคน ตะวันออกกลาง 1.52 แสนคน และแอฟริกา 2.4 หมื่นคน

 

 

“ในปี 2568 ททท.ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 10.6 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป 7.7 ล้านคน อเมริกา 1.6 ล้านคน ตะวันออกกลาง 1.2 ล้านคน และแอฟริกา 1.5 แสนคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 8.7 แสนล้านบาท”

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 5 มีนาคม 2568