นายกรัฐมนตรีเวียดนามเผย เป้าการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ต้องเผชิญความท้าทายหลายอย่างจากภาษีสหรัฐกระทบผู้ส่งออกและภาคธุรกิจ

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนาม แถลงต่อสภาแห่งชาติ

 

“ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกเกิดการเคลื่อนไหวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนส่งผลให้การบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคมีแรงกดดันมากขึ้น”

 

อย่างไรก็ตาม นายกฯ เวียดนามย้ำว่า รัฐบาลจะคงเป้าเศรษฐกิจปีนี้โตอย่างน้อย 8% ปีต่อๆ ไปโตระดับเลขสองหลักเอาไว้ โดยเวียดนามจะต่อรองกับสหรัฐ “เพื่อให้ได้การค้าที่สมดุล พร้อมสร้างหลักประกันว่าไม่สร้างความเสียหายให้ตลาดอื่นๆ” จิ๋งห์กล่าวพร้อมให้คำมั่นเวียดนามจะเดินหน้าต่อสู้การฉ้อโกงทางการค้าต่อไป

 

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าของเวียดนามกำลังต่อรองอย่างเข้มข้นกับคู่เจรจาสหรัฐ เพื่อไม่ให้ถูกเก็บภาษี 46% ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจในอนาคต พร้อมกันนั้นเวียดนามยังพยายามรักษาความสัมพันธ์ให้สมดุลกับคู่ค้ารายใหญ่สุดอย่างจีน ซึ่งเตือนประเทศต่างๆ ไม่ให้ตกลงทำข้อตกลงกับสหรัฐโดยสร้างความเสียหายให้ปักกิ่ง

 

ในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 6.93% ต่ำกว่า 7.55% ของไตรมาสสี่ปีที่ผ่านมา ในฐานะประเทผศพึ่งพาการค้ามากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง การส่งสินค้าไปยังสหรัฐคิดเป็นราว 30% ของจีดีพีเวียดนาม

 

สัญญาณหนึ่งซึ่งบ่งบอกถึงแรงกดดันต่อเวียดนามคือ ดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อภาคการผลิตโดยS&P Global ชี้ว่า กิจกรรมของเวียดนามหดตัวลงในเดือน เม.ย. สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2023

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568