10 สุดยอดความสำเร็จของจีน เหตุผลที่ สี จิ้นผิง ได้ต่อวาระ 3 (2)
(2)ความเร็วของจีน (China Speed)
ในปี 2021 ระบบรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “แม็กเลฟ” (Maglev) ที่ออกจากสายการผลิตสำคัญที่เมืองชิงต่าว มณฑลชานตง ได้ทำสถิติวิ่งด้วยความเร็วถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการระหว่างปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ 2 มหานครหลักของจีน เป็นเส้นทางแรกในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะช่วยให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านรถไฟของโลกในปัจจุบัน
ความสำเร็จของทีมวิจัยในการพิสูจน์ทฤษฎีควอนตัม (Quantum) นำโดย พาน เจียนเว่ย (Pan Jianwei) ได้นำไปสู่การออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ล้ำสมัยขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งได้ถูกชื่อว่า “จูฉงจื่อ 2.1” (Zuchongzhi 2.1) ตามชื่อจู ฉงจื่อ (Zu Chongzhi) นักคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ชื่อดังของจีน
หลังจากนั้น จีนก็ยังคงพัฒนาจรวดลองมาร์ชรุ่น 5B ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อใช้ในการขนส่งเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากขึ้นได้
การปล่อยจรวดยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 20 กันยายน 2022 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 438 ครั้ง นับว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศที่ต้องการท่องอวกาศ และยังช่วยให้การสำรวจและภารกิจอวกาศของจีนมีความรุดหน้าไปมาก
ขณะเดียวกัน มิติด้านความเร็วยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นในการพัฒนาและความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนประสบความสำเร็จในการขยายขอบข่ายของความถี่ในการเข้าถึงเครือข่ายใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Network)
โดยสามารถเพิ่มปริมาณในการถ่ายโอนข้อมูลต่อวินาทีได้อย่างรวดเร็วจาก 10 เม็กกะบิตเมื่อราว 10 ปีก่อน เป็น 100 เม็กกะบิต และไปสู่ระดับกิ๊กกะบิตในปัจจุบัน
นั่นหมายความว่า คนจีนในปัจจุบันสามารถดาวน์โหลดหนัง (ความยาว 1.5 ชั่วโมง) ซึ่งมีความจุประมาณ 3.5 กิ๊กกะบิต โดยใช้เวลาเพียง 3.5 วินาที จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเราเห็นคนจีนดาวน์โหลดหนังดีๆ ใส่ในโทรศัพท์มือถือเพื่อไปไว้เปิดดูบนเครื่องบินและรถไฟความเร็วสูงกันเต็มไปหมด
ขณะเดียวกัน โครงข่ายการสื่อสารของจีนที่ก้าวกระโดดจากช่วงเวลาของ “การฟันฝ่าอุปสรรค” ในยุค 3G ไปสู่ “การทาบชั้น” ในยุค 4G และก้าวไปสู่ “การเป็นผู้นำ” ในยุค 5G ก็ได้สร้างความตื่นตะลึงได้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ จีนยังได้พัฒนาโครงข่ายระดับหมู่บ้านออกไปอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ เท่านั้นไม่พอ ภายหลังความสำเร็จในห้องทดลอง จีนก็ประกาศจะเริ่มนำร่องใช้ระบบ 6G ภายในปี 2030 กันแล้ว
นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมข้อมูลและการสื่อสารของจีน ยังได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายเทคโนโลยีที่กว้างใหญ่และล้ำสมัยมากที่สุดในโลก และเปิด “เส้นทางหลัก” สำหรับข้อมูลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน
ความเร็วยังเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความได้เปรียบของระบบบริการสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 การก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางขนาดใหญ่จนพร้อมเปิดให้บริการในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในด้านวิศวกรรมการก่อสร้าง และความพร้อมด้านทรัพยากรและอุปกรณ์การแพทย์ของจีน
จีนยังพัฒนาชุดตรวจสอบการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองขึ้น และคิดค้นและผลิตวัคซีนเทคโนโลยีแบบ “เชื้อตาย” ของ ชิโนแวก (Sinovac) และ ชิโนฟาร์ม (Sinopharm) จนได้เข้าไปลิสต์อยู่ในทะเบียนขององค์การอนามัยโลกได้เป็นครั้งแรก และสามารถฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชากรมากอันดับต้นๆ ของโลก
นอกจากนี้ ในปี 2021 จีนยังได้เริ่มคิดค้น ทดสอบ และพัฒนาวัคซีนแบบ mRNA รวมทั้งการพัฒนายาชีวภาพ และเทคโนโลยีการรักษาโรคร้ายอื่นๆ ได้อย่างมากมาย
คราวหน้าผมจะพาไปติดตามความสำเร็จในมิติอื่นกันครับ
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 30 ตุลาคม 2565