หนังสือ APEC CEO SUMMIT 2022 SUMMARY OF DISCUSSION
หนังสือ APEC CEO SUMMIT 2022 SUMMARY OF DISCUSSION
จากการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรี และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
มีเวทีของภาคเอกชน รวมผู้นำธุรกิจแห่งเอเชียแปซิฟิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ในการประชุม “APEC CEO Summit 2022” คู่ขนานกันไป โดยมี ซีอีโอ จากทุกเขตเศรษฐกิจเข้าร่วมมีโปรแกรมการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคม เหลือเพียงรอการยืนยันที่ชัดเจนจากผู้นำเขตเศรษฐกิจ ที่ภาคเอกชน ได้เชิญเข้าร่วมงาน รวม 13 เขตเศรษฐกิจ
งาน APEC CEO Summit 2022 การประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปค จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Embrace Engage Enable’ โดยมีเป้าหมายส่งเสริมความมั่งคั่งและการเติบโตของประชาชน และสังคมในเอเชียแปซิฟิกสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนการแบ่งปันแง่มุมทางนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างการเติบโตร่วมกัน
เป็นการประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรกหลังการระบาดของโควิด-19 ที่แม้ว่าจะบรรเทาลงแล้ว แต่ทุกประเทศยังมีความท้าทายอีกมายที่ต้องเผชิญ เช่น สงคราม ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ภาวะเงินเฟ้อ การก่อการร้าย การขาดแคลนอาหาร พลังงาน ความยั่งยืน เทคโนโลยีที่สร้างความพลิกผัน ตลอดจนภัยคุกคามอื่นๆ ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับการพูดคุยเพื่อนำไปสู่การหาทางออกและกลยุทธ์ต่อไป
โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แจ้งว่าประเทศไทยได้นำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model: BCG) มาเป็นกลยุทธ์ในการฟื้นฟูประเทศหลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตของประเทศ รวมถึงการก่อสร้างทางหลวงและมอเตอร์เวย์เพิ่มขึ้นถึง 271% ในปี 2564 การสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อเมืองและศูนย์ด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ ขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิได้เพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารอีก 17% เป็น 139 ล้านคน
ซึ่งหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ขณะที่การเข้าถึงระบบสวัสดิการได้รับการพัฒนาจนได้รับความชื่นชมจากนานาชาติว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับการระบาดใหญ่ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่ง
โดยนายกฯ ได้กล่าวต่อว่าปัจจุบันเศรษฐกิจดิจิทัลมีมูลค่า 14% ของ GDP ซึ่งประเทศไทยตั้งเป้าจะขยายให้เป็น 30% ภายในปี 2030 ไทยจะเสนอให้ผู้นำเอเปครับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะกำหนดทิศทางของเอเปคไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน สนับสนุนความพยายามในการจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน ผลักดันการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดขยะให้เป็นศูนย์ ซึ่งความสำเร็จนี้ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ภูมิภาคก้าวไปข้างหน้า และเติบโตไปด้วยกันสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุม และสมดุล โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
บทความประกอบจาก techsauce