สำรองไฟฟ้าไทย สรุปตอนนี้เท่าไหร่ ใช้สูตรไหนคำนวณ พลังงานแจงแล้ว
เมื่อวันที่ 23 เมษายน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงข้อมูลการคำนวณกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของไทย หลังจากมีกระแสวิจารณ์ว่าสูงกว่า 50% ขณะที่กระทรวงพลังงานชี้แจงมาตลอดตัวเลขจริงว่า อยู่ระดับ 36%
โดยรายละเอียดการชี้แจงตั้งคำถาม รู้หรือไม่การคำนวณกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ที่ถูกต้อง คือ สูตรไหน
คำตอบคือ ประเทศมีไฟฟ้าสำรองสูงมากกว่า 50% เข้าใจกันผิด เนื่องจากโรงไฟฟ้าบางประเภทโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้พลังงานจากธรรมชาติ ความสามารถในการผลิตจะขึ้นอยู่กับปริมาณ แดด ลม และน้ำ ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนชีวมวล ก็ขึ้นกับฤดูกาล

ดังนั้น วิธีการคำนวณ Reserve Margin ไม่สามารถนำผลรวมของกำลังผลิตไฟฟ้าของทุกโรงไฟฟ้ามาเปรียบเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยตรงได้ จะต้องใช้ตัวคูณลดทอนให้เหมาะสมกับสภาพโรงไฟฟ้าแต่ละชนิด
ซึ่งเมื่อลดทอนมาจะเรียกว่า “กำลังการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาได้” หรือ (Dependable Capacity) โดยจะนำ Dependable Capacity มาประเมิน Reserve Margin โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา ณ ปี 2565 เป็น 52,566 MW คิดเป็น Dependable Capacity ประมาณ 45,225 MW จะคิดเป็น Reserve Margin ประมาณ 36%
แต่หากนำกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 52,566 MW ไปคิด จะได้ Reserve Margin ประมาณ 58% ซึ่งเป็นการคำนวณที่มักเข้าใจผิดกันจึงทำให้ได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ทั้งนี้ ในการประเมิน Reserve Margin ข้างต้นนั้น ประเมินจากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ในระบบ 3 การไฟฟ้า หากประเมินจากความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยซึ่งรวมความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองและผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการซื้อขายกันโดยตรงในนิคมอุตสาหกรรม (Independent Power Supply : IPS) ที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบ 3 การไฟฟ้าด้วยแล้ว จะทำให้ Reserve Margin ต่ำกว่าระดับที่ประเมินไว้
เนื่องจากหาก IPS ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ก็จะมีการใช้ไฟฟ้าจากระบบ 3 การไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก IPS ดังกล่าวต้องพึ่งไฟฟ้าจากระบบในช่วงที่เกิด Peak ของประเทศ จะส่งผลให้ระดับ Reserve Margin ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอดีตประเทศไทยเคยประสบกับปัญหา “กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง” ต่ำเกินไปจนทำให้เกิดปัญหา เมื่อเกิดสถานการณ์ ที่ทำให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้
ดังนั้น การมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin: RM) ในแผน PDP ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอในยามที่เกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ หรือกรณีเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ก็ยังจะมีไฟฟ้าใช้เพียงพอที่จะสนับสนุนภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ที่จะทำให้ประเทศไทยไม่ตกขบวนการแข่งขันในเวทีโลก
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 23 เมษายน 2566