นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทย น้อยกว่าคาดการณ์ไว้นั้น เบื้องต้นแม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนดูน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ในขณะนี้ แต่ททท. คาดว่านักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มที่จะเดินทางเข้าไทยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ดูจากสถิติการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีจำนวนกว่า 328,375 คน และตั้งแต่วันที่ 1-6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีสะสมแล้วจำนวน 56,429 คน เฉลี่ยวันละกว่า 10,000 คน ภายใต้ข้อจำกัดในการทำวีซ่าและปริมาณเที่ยวบินที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ (ดีมานด์)

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ในฐานะหน่วยงานด้านการตลาด ได้ดำเนินการกระตุ้นและจัดทำแผนงานในการดึงดูดชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ พยายามประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่า และการเพิ่มปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศจากจีน ในขณะที่ททท. ทั้ง 5 สำนักงานในจีนยังคงทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อาทิ การดำเนินกิจกรรม Joint Promotion ร่วมกับสายการบินและบริษัทนำเที่ยวชั้นนำ เพื่อกระตุ้นให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT พบว่า ปัจจุบันปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายการบินจากประเทศจีน ที่มีความต้องการเปิดทำการบิน และเพิ่มความถี่มาที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง แต่สามารถจัดสรรให้ได้ 10-20% ของความต้องการเท่านั้น เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิ มีข้อจำกัดในเรื่องการบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น

 

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ได้มีการจัดหาผู้ให้บริการบริการภาคพื้น 2 ราย คือ บริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) และบริษัท พัทยาเอวิเอชั่นจำกัด เพื่อมาช่วยให้บริการแบบชั่วคราว จนกว่า ทอท.จะประมูลแบบพีพีพี และคัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 ได้ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของบริการและรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กพท. ได้มีการประชุมร่วมกับสายการบินจีนกว่า 10 สาย เพื่อจัดสรรเที่ยวบินเพิ่มเติมให้ตามที่ต้องการ และเป็นไปตามสิทธิ์ SLOT ที่ได้จัดสรรในตารางบินฤดูร้อน (Summer Schedule) โดยเบื้องต้น คาดว่าเที่ยวบินจากประเทศจีนจะทำการบินเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 430 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่มีเพียง 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ตลาดต่างชาติประเทศที่ยังมีศักยภาพในการดึงดูดเข้ามาเที่ยวไทย มองเป็นตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งจากการเดินทางไปร่วมงาน Arabian Travel Market ของ ททท. ที่ดูไบ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศที่นักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด ตะวันออกกลางจึงเป็นตลาดต่างชาติที่มีศักยภาพในการดึงดูดเข้ามาเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซั่นนี้ โดยคาดว่าจะมีการเดินทางเข้ามาของชาวตะวันออกกลางไม่น้อยกว่า 500,000 คน ภายในปี 2566

 

“ภาพการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไปนี้ อาจจะซบเชาไปบ้าง สำหรับตลาดในประเทศเนื่องจากสิ้นสุดเทศกาลสำคัญ คือ สงกรานต์ และมีหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงที่ผ่านมา กอปรกับการสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เมื่อสิ้นเดือนเมษายน ส่วนตลาดต่างประเทศคงต้องรอการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง และการเพิ่มขึ้นของปริมาณเที่ยวบินจากจีน ซึ่งที่ผ่านมามีข้อจำกัดในเรื่องการบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น และอยู่ระหว่างการดำเนินแก้ไขเพื่อตอบรับดีมานด์ที่จะเข้ามาต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566