ตามข้อตกลงเจ้าแขวงจำปาสัก เลขที่ 265/ จข.จส. ลงวันที่ 6 มีนาคม 2566 และประกาศเจ้าเมืองปากซองตามข้อตกลงเจ้าแขวงจำปาสักว่าด้วยการคุ้มครองการใช้ที่ดินกสิกรรมที่เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก เลขที่ 269/ จม.ปซ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ไม่อนุญาตให้ปลูกพืชเพื่อธุรกิจที่เมืองปากซอง ได้แก่ 

 

(1) มันสำปะหลัง (2) กล้วยหอม (ดัดแปลงพันธุกรรม) และ (3) พืชที่มีผลกระทบต่อที่ดินกสิกรรม เช่น ไม้ยูคาลิปตัส กระถินณรงค์ กระถินเทพา และสบู่ดำ เนื่องจากจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อที่ดินกสิกรรม ทำให้ดินเสื่อมสภาพ และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

โดยมีมาตรการและบทลงโทษผู้ละเมิด ดังต่อไปนี้  

 

มาตรการ :

 

1)ให้บุคคลหรือนิติบุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ที่ปลูกพืชใน 3 ข้อข้างต้นยุติการดำเนินการดังกล่าว สำหรับผู้ที่ปลูกมันสำปะหลังและกล้วยหอม (ดัดแปลงพันธุกรรม) เพื่อธุรกิจที่เมืองปากซอง โดยใช้ที่ดินกสิกรรมที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ให้เปลี่ยนไปปลูกพืชที่ปลูกสืบทอดกันมาและเป็นเอกลักษณ์ของเมืองปากซอง เช่น กาแฟ ชา พืชผัก สมุนไพร ดอกไม้ ผลไม้ฤดูหนาว และพืชอื่นๆ 

 

2)อนุญาตและส่งเสริมให้ปลูกกล้วย (พันธุ์พื้นเมือง) ในครัวเรือน

 

3)ไม่อนุญาตให้องค์กรภาครัฐ เอกชน นิติบุคคลทั้งภายในและต่างประเทศก่อสร้างลานและจุดรับซื้อมันสำปะหลังในเมืองปากซอง สำหรับลานและจุดรับซื้อมันสำปะหลังที่มีอยู่แล้วทั้งที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตให้ยุติการรับซื้อมันสำปะหลัง ทั้งนี้ จะยกเลิกใบอนุญาตการจัดตั้งลานมันสำปะหลังที่ได้อนุญาตไปแล้วก่อนหน้านี้

 

4)ไม่อนุญาตให้ใช้ที่ดินกสิกรรมดำเนินการเป็นอื่น อาทิ ใช้ในการปลูกสิ่งก่อสร้าง อุตสาหกรรม หรือดำเนินธุรกิจอื่น ๆ และไม่ให้ถมดิน หรือนำที่ดินกสิกรรมไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การปกครองเมืองและห้องการกสิกรรมและป่าไม้เมืองปากซอง

 

บทลงโทษ :

 

ผู้ละเมิดจะถูกตักเตือน ให้เข้ารับการอบรม และจัดทำบทบันทึก ซึ่งหากกระทำผิดซ้ำและไม่สามารถแก้ไขได้จะถูกระงับหรือถอนใบอนุญาตในการดำเนินกิจการด้านกสิกรรมและป่าไม้ และดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับประเทศไทย ภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจที่เมืองปากซองยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่ได้ปลูกพืชตามข้อตกลงเจ้าแขวงฯ และประกาศเจ้าเมืองฯ ข้างต้น (ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 23 พฤษภาคม 2566