ตลาดอาเซียนระอุ! คาด "TikTok Shop" แข่งเดือด "Shopee"- "Lazada"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า "ติ๊กต็อกชอป" ของแอปพลิเคชันติ๊กต็อก กำลังกลายมาเป็นภัยคุกคามสำคัญสำหรับบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในอาเซียน แข่งกับช้อปปี้ และลาซาด้า
ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์พยายามนำติ๊กต็อกเจาะตลาดต่าง ๆ นอกสหรัฐและอินเดีย เพื่อสร้างทางเลือกด้านรายได้ ซึ่งเสี่ยงส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
ติ๊กต็อกชอปเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซบนติ๊กต็อกที่จะทำให้พ่อค้าแม่ค้า แบรนด์ และครีเอเตอร์สามารถแสดงหรือขายสินค้าให้กับผู้ใช้งานได้
ในปี 2565 ติ๊กต็อกชอปได้ขยายธุรกิจไปยัง 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย
“ติ๊กต็อกเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเราประมาณการว่า ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมในปี 2566 ของติ๊กต็อกจะแตะ 20% ของช้อปปี้ โดยเราได้แนะนำให้ช้อปปี้เพิ่มยอดขายและการตลาดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.” นายชอว์น หยาง นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยบลูโลตัสระบุในรายงานของบริษัทซี กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของช้อปปี้
อย่างไรก็ตาม ติ๊กต็อกปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นหรือเปิดเผยข้อมูล
ดิ อินฟอร์เมชัน สำนักข่าวด้านเทคโนโลยีรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลภายในว่า ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมของติ๊กต็อกชอปพุ่งขึ้นกว่า 4 เท่าตัวแตะที่ 4.4 พันล้านดอลลาร์ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2565 และมีรายงานว่าติ๊กต็อกชอปตั้งเป้ายอดขายสินค้าออนไลน์รวมไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2566
แต่ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมในปัจจุบันของติ๊กต็อกชอปคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช้อปปี้และลาซาด้า
ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนระบุว่า ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมของช้อปปี้อยู่ที่ 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 ขณะที่ ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมของลาซาด้าอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างเดือนก.ย. 2563 ถึงเดือนก.ย. 2564
โฆษกของติ๊กต็อกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ติ๊กต็อกชอปยังคงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้งานรายใหญ่และรายย่อยต่างใช้ติ๊กต็อกในการหาลูกค้ารายใหญ่ โดยติ๊กต็อกกำลังพุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาติ๊กต็อกชอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อินไซเดอร์ อินเทลลิเจนซ์ บริษัทวิจัยตลาดระบุว่า ตัวเลขผู้ใช้งานติ๊กต็อกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 135 ล้านราย ณ เดือนพ.ค.
ข้อมูลจากสตาติสตา ระบุว่า อินโดนีเซียมีผู้ใช้งานติ๊กต็อกมากเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 26 พฤษภาคม 2566