เอกชน เชื่อมั่น ส่งออกปี 66 พลิกโต1-2% ได้ วอน รบ.ใหม่ทบทวน ขึ้นค่าแรง 450บ.
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดการประชุมผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ 58 แห่ง 43 ประเทศทั่วโลก ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และภาคเอกชน เพื่อหารือแผนผลักดันการส่งออกในครึ่งปีหลัง 2566 โดยมี นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม
ในส่วนภาคเอกชน โดย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยกล่าวว่า จากก่อนหน้านี้ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนหรือกกร.ประเมินไว้ว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวเพียง 0-1% แต่จากการประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ตามแผนงานต่างๆหากสามารถร่วมกันอย่างจริงจังเชื่อว่าโอกาสตัวเลขส่งออกปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 1-2 % ตามที่คาดการณ์กันไว้

“แต่สิ่งที่ยังกังวลใจของภาคเอกชน คือ ปัจจัยผลกระทบของเดิม เช่น พลังงานสูง ค่าเงินบาทแข็งค่าและอีกหลายส่วนยังอยู่และคาดเดาลำบาก แต่สิ่งที่มาใหม่ เพื่อจะมีรัฐบาลใหม่ และเตรียมเดินหน้าปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทจะเป็นผลกระทบต่อภาคการค้าและอุตสาหกรรมรุนแรงมาก”นายพจน์ กล่าว
ดังนั้น ภาคเอกชนขอให้พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพิจารณาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำบนพื้นฐานของกฎหมายและพิจารณารอบด้านก่อนใช้นโยบายนี้ เพราะภาคเอกชนเดิมและเอกชนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะได้รับผลกระทบและไม่กล้าเข้ามาลงทุนในไทยแน่นอน รวมทั้งยังจะกระทบต่อภาคการเกษตรที่ต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มแต่ขายสินค้าเกษตรเท่าเดิมหรือน้อยลงได้ จึงอยากเสนอแนะว่าจะต้องพิจารณาทุกให้รอบด้านก่อน
ด้าน นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเดือนมกราคม 2566 ทำได้ 2 หมื่นกว่าล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำสุด และเริ่มดีขึ้น จนเดือน มีนาคม 2566 ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะแย่ แต่ก็ดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้ไตรมาสแรก ติดลบเพียง 4.5% และจากนี้คาดว่าทิศทางจะดีขึ้น บวกกับที่ทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเจาะตลาด ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มยอดส่งออก
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 26 พฤษภาคม 2566