วิจัยเผย โลกป่วยหนักขั้นวิกฤต เข้า "โซนอันตราย" เพียบ
รายงานวิจัยล่าสุดจากคณะกรรมาธิการโลก (Earth Commission) ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า โลกได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านความปลอดภัยทางวิทยาศาสตร์ไปแล้วถึง 7 จาก 8 ข้อ ซึ่งทำให้เข้าสู่ “โซนอันตราย” ที่ไม่เพียงแค่ส่งผลให้โลกร้อนจัดจนสูญเสียพื้นที่ธรรมชาติไป แต่ยังกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยด้วย
งานวิจัยดังกล่าวซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนผ่านวารสารเนเจอร์ ได้ศึกษาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ มลพิษทางอากาศ การปนเปื้อนของฟอสฟอรัสและไนโตรเจนในน้ำจากการใช้ปุ๋ยมากเกินไป ปริมาณน้ำบาดาล แหล่งน้ำสะอาดบนผิวโลก สิ่งแวดล้อมโดยรวมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยพบว่ามีเพียงมลพิษทางอากาศเท่านั้นที่ไม่อยู่ในจุดอันตรายทั่วโลก
Earth Commission กล่าวว่า มลพิษทางอากาศเป็นอันตรายในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค ขณะที่สภาพภูมิอากาศก้าวข้ามระดับอันตรายต่อมนุษย์แต่ดูเหมือนยังไม่เกินแนวทางความปลอดภัยสำหรับระบบนิเวศของโลก กล่าวคือเป้าหมายการจำกัดอุณหภูมิโลกที่ 1.5 องศายังไม่ได้ถูกละเมิด เพียงแต่เราได้พ้นขอบเขต 1 องศาที่ส่งผลเสียต่อมนุษย์ไปแล้ว โดยรายงานพบจุดที่ประสบปัญหาอย่างหนักทั่วโลก ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ส่วนพื้นที่ 2 ใน 3 ของโลกไม่เป็นไปตามเกณฑ์ความปลอดภัยของน้ำจืด
โจยีตา กุปตา ประธานร่วมของ Earth Commission กล่าวว่า โลกกำลังป่วยอย่างมาก โดยอาการป่วยกระจายตัวในหลายพื้นที่และระบบ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อผู้คนบนโลก พร้อมเสริมว่า นี่ไม่ใช่การวินิจฉัยขั้นสุดท้าย โลกสามารถหายป่วยได้หากมีการรักษา
อย่างไรก็ดี โจฮัน ร็อกสตรอม นักวิจัยหลักของรายงานดังกล่าวย้ำว่า “เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ผิดจากพื้นฐานทั้งหมดเหล่านี้” และว่ารายงานฉบับนี้ได้วางขอบเขตการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งช่วยกำหนดว่าสิ่งใดดี-ไม่ดีต่อโลก ที่จะเป็นดั่งการตั้งกำแพงนิรภัยไม่ให้ความเสี่ยงทางธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 1 มิถุนายน 2566