เทรนด์ท่องเที่ยวนอกเมืองมาแรง "รัฐ-เอกชนญี่ปุ่น" เร่งพัฒนาชนบท
เทรนด์ท่องเที่ยวนอกเมืองมาแรง "รัฐ-เอกชนญี่ปุ่น" เร่งพัฒนาชนบท โดยข้อมูลสำรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 พบว่า มีนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวซ้ำ 64.2% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 58.7% ซึ่งนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ในปี 2562
ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างแข็งแกร่ง อานิสงส์ของการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ตามพรมแดน ประกอบกับเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้ต้นทุนในการท่องเที่ยวถูกในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ
จุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนเป็นปกติในญี่ปุ่น ทั้งกรุงโตเกียว โอซากา และเกียวโต มักเป็นเมืองแรก ๆ ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่เมื่อมาเยือนอีกเป็นครั้งที่ 2,3 หรือ 4 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พากันเปลี่ยนไปเที่ยวนอกเมืองกันมากขึ้น
“ฮันนาห์ โคทิลลอน” นักท่องเที่ยวจากอังกฤษที่มาเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 3 เล่าว่า “ฉันชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดของญี่ปุ่น เพราะเหมือนได้หลีกหนีไปพักผ่อนจากกุรงโตเกียว โอซากา และเกียวโตที่แสนจะอึกทึก วุ่นวายและเร่งรีบ และเราสามารถพักผ่อนและเพิ่มพลังในเมืองเล็กๆอย่างโอโนมิจิใน จ.ฮิโรชิมาและเมืองคานาซาวะใน จ.อิชิคาวะได้”
โคทิลลอน และเพื่อนๆ ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมานานกว่า 2 สัปดาห์ ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นมั่นใจว่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมไปเยือนซ้ำ โดยข้อมูลสำรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นระบุว่า มีนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวซ้ำ 64.2% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 58.7% และนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ในปี 2562
ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เยือนโตเกียวในปี 2562 น้อยกว่า 4 ปีก่อนหน้ามากกว่า 4 เท่า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มาตรการควบคุมพรมแดนตลอดเวลา 3 ปีของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เทรนด์การท่องเที่ยวออกนอกเมืองกลับมาบูมอีกครั้ง
“โนริโกะ ยากาซากิ” ศาสตราจารย์ด้านนโยบายการท่องเที่ยวจากมหาวิทยาลัย Tokyo Woman's Christian คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปีนี้ การท่องเที่ยวขาเข้าจะก้าวสู่เฟสใหม่ ซึ่งเป็นเฟสที่นักท่องเที่ยวจะกระจายออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมากขึ้น แม้ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายเมืองในต่างจังหวัดพยายามเพิ่มการโปรโมทในต่างประเทศ แต่เงินเยนแข็งค่าฉุดการท่องเที่ยวจากต่างชาติลดลง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โซเชียลมีเดียและความนิยมท่องเที่ยวในสถานที่ที่ปรากฎในภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังและรายการต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นการรับรู้ไปยังสถานที่ที่คนรู้จักน้อย ยกตัวอย่างเช่น แฟนคลับภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “Your Name” แห่ไปเที่ยวจังหวัดกิฟุ หนึ่งในไม่กี่จังหวัดของญี่ปุ่นที่ไม่มีเขตแดนติดกับทะเลตั้งแต่ภาพยนตร์ออกฉายในปี 2559
โรงแรมต่างชาติที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองมานาน ก็เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ไปตามเทรนด์การท่องเที่ยวนอกเมือง โดยโรงแรมหลายแห่งพากันขยายกิจการไปยังเมืองเล็ก ๆ บ้างแล้ว
ในจังหวัดคาโกชิมะ ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น มีโรงแรมเชอราตัน คาโกชิมะ ในเครือแมริออท อินเตอร์เนชันแนล เปิดบริการแล้วเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ถือเป็นโรงแรมหรูในต่างประเทศแห่งแรกในจังหวัดคาโกชิมะ และด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมืองของจังหวัด แขกที่พักจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของภูเขาไฟซากุระชิมะที่สวยงาม
“ฮิโตชิ อิมูตะ” ผู้บริหารโรงแรมนาโงคุ ที่ดำเนินกิจการโรงแรมเชอราตันร่วมด้วย เผยว่า “กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีฐานะ เนื่องจากคาโกชิมะยังไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เราจะร่วมโปรโมทจุดเด่นต่าง ๆ ของจังหวัด ทั้งอาหารอร่อย ๆ อย่างเนื้อวากิว หมูคุโรบูตะ และอาหารทะเล รวมถึงธรรมชาติที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิ”
โรงแรมฮิลตัน คู่แข็งโรงแรมแมริออท เปิดโรงแรมดับเบิลทรี บายฮิลตัน โทยามะ ในจ.โทยามะ เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาและฮิลตันยังได้วางแผนสร้างโรงแรมในมิยาโกะจิมะ เกาะในเมืองเขต จ. โอกินาวา ในเดือน มิ.ย.
ตัวแทนจากโรงแรมฮิลตัน กล่าวว่า บริษัทกำลังให้ความสำคัญกับการขยายกิจการไปยังต่างจังหวัด และตั้งเป้าสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่าจำนวนโรงแรมที่มีอยู่ในญี่ปุ่น 2 เท่า เป็น 40 แห่งภายในปี 2579
ในส่วนของรัฐบาลญี่ปุ่น ยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยเมื่อเดือน มี.ค. สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นเลือกต้นแบบจุดหมายปลายทาง 11 แห่ง เพื่อหนุนการท่องเที่ยวขาเข้า หน่วยงานรัฐจะมอบหมายงานให้ผู้เชี่ยวชาญและจัดสรรเงินทุนในการพัฒนาและโปรโมทการท่องเที่ยวท้องถิ่น สำหรับปีงบประมาณ 2566 นี้ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ตลอดระยะเวลาโครงราว 700 ล้านเยน
โฆษกสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเผยว่า “เราสนับสนุนสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งด้วยการพัฒนาแผนแม่บท ไม่ใช่แค่เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเพิ่มรายจ่ายต่อหัวด้วย”
ข้อมูลรายจ่ายต่อหัวจากสำนักงานการท่องเที่ยวในปี 2562 ล่าสุดอยู่ที่ 158,531 เยน ต่ำกว่าปี 2558 ซึ่งมีรายจ่ายต่อหัวอยู่ที่ 176,167 เยน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในชนบทยังคงมีความท้าทายรออยู่
อาจารย์ยากาซากิ เตือนว่า “การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนซ้ำ ไม่ใช่เพียงให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ต้องหลีกเลี่ยงการทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่พอใจด้วย”
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญีปุ่นยังมีปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องแก้ไข ทั้งการแปลข้อมูลการท่องเที่ยวที่ทำได้ไม่ดีพอ, บริการขนส่งที่ไม่เพียงพอ และร้านค้าจำนวนมากยังรับชำระแต่เงินสด ซึ่งปัจจัยที่ต้องพัฒนาในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดเหล่านี้ คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เมืองต่าง ๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม โคทิลลอน นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษตัดสินใจจะกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้ง เธอบอกว่า “ฉันอยากกลับมาเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง เยี่ยมชมเมืองในต่างจังหวัด และภูมิภาคที่ห่างไกลมากขึ้น รวมทั้งอยากปีนเขาในเกาะชิโกกุ และท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮกุด้วย”
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 12 มิถุนายน 2566