จีนเบนเข็มมุ่งลงทุนผลิตแผงโซลาร์ในเวียดนามเกือบ 1.5 หมื่นล้าน หลังจากบริษัทจีนในไทย ถูกสหรัฐตั้งกำแพงภาษีส่งออกปีหน้าฐานให้สวมสิทธิ์ส่งออกไปสหรัฐ

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าว 3 รายที่เกี่ยวข้องว่า บริษัททรินา โซลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแผงโซลาร์รายใหญ่ที่สุดในโลกจากจีน มีแผนที่จะลงทุนสร้างโรงงานผลิตแห่งที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ภายใต้วงเงิน 400 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งอาจเป็นความพยายามที่จะเพิ่มการส่งออกไปสหรัฐผ่านทางเวียดนาม และแก้ปัญหากรณีที่ 4 ชาติอาเซียนรวมถึง "ประเทศไทย" ถูกสหรัฐตั้งมาตรการภาษีไปก่อนหน้านี้

 

รายงานระบุว่า การลงทุนใหม่นี้จะเป็นการสร้างโรงงานผลิตขนาดใหญ่บนพื้นที่ประมาณ 156 ไร่ โดยคาดว่าจะเริ่มการการก่อสร้างได้ในปี 2568 ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายเปิดเผยว่า มูลค่าการลงทุนในโครงการนี้อาจสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.2 หมื่นล้านบาท) 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัททรินา โซลาร์ ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าว

 

ทั้งนี้ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้สรุปผลการสอบสวนว่า บริษัททรินา โซลาร์ เป็น 1 ใน 5 บริษัทแผงโซลาร์จากจีน ที่เลี่ยงกำแพงภาษีด้วยการเข้าไปผลิตใน 4 ชาติอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย เพื่อใช้เป็นฐานส่งออกแผงโซลาร์ไปสหรัฐแทน สหรัฐจึงได้ตัดสินใจบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้ากับผู้ผลิตแผงโซลาร์ ที่เข้าไปประกอบสินค้าในอาเซียน รวมถึงไทย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไป

 

อย่างไรก็ตาม รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ภายใต้เงื่อนไขการบังคับใช้มาตรการทางภาษีดังกล่าว จะมีผลในทางปฏิบัติแค่กับบริษัททรินา โซลาร์ ที่มีฐานการผลิตในไทยเท่านั้น แต่สำหรับในภาพรวมนั้นสหรัฐก็จะยังจับตาบริษัทจีนที่มาตั้งฐานผลิตในอาเซียนเพื่อส่งออกไปสหรัฐอย่างใกล้ชิด

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 28 กันยายน 2566