ทอท.รับลูกรัฐ ลุยศึกษาสร้าง "สนามบินภูเก็ต-เชียงใหม่" แห่งที่ 2 ลงทุนรวม 1.5 แสนล้าน
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 29 กันยายน ที่แกรนด์ฮอลล์ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต) นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานยุทธศาสตร์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวภายในงานสัมมนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต” บรรยายพิเศษในหัวข้อ ท่องเที่ยว-เครื่องยนต์หลัก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ว่า จากนโยบายการตลาดนำ นวัตกรรมตาม ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทอท.เป็นหนึ่งในเครื่องจักรและผู้พัฒนาอินฟราสตรัคเจอร์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการเพิ่มประสิทธิในการบริหารเพื่อสอดรับกับนโยบายการตลาดได้
ทั้งนี้ ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารก่อนโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 160 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้โดยสารใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ประมาณ 70% แต่ด้วยสภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของแต่ละประเทศยังไม่ดี ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติบางประเทศยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อาทิ จีน แต่คาดว่าผู้โดยสารจะสามารถกลับมาเทียบเท่ากับช่วงโควิด-19 ได้ภายในช่วง 1-2 ปีนี้ ส่วนผลลัพธ์ของนโยบายวีซ่าฟรีของรัฐบาลจะส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ต้องดูตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันชาติอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในเรื่องของความหนาแน่นของสนามบินสุวรรณภูมินั้น ปัจจุบันมีการเปิดทดลองให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) แล้ว ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องความแออัด นอกจากนี้ ในปี 2567 ทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 จะแล้วเสร็จ ซึ่งส่งผลให้การขึ้นลงของอากาศยาน จากเดิมบินได้เพียง 68 เที่ยวบิน เพิ่มเป็น 94 เที่ยวบิน หรือศักยภาพจะเพิ่มขึ้นอีก 50%
ในส่วนของเรื่องการพัฒนานอกจากการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างออกแบบ ท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ซึ่งจะขยายขีดความสามารถของท่าอากศยานดอนเมืองให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ที่ 40 ล้านคนต่อปี และสามารถบริหารจัดการให้รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 50 ล้านคนต่อปี ขณะที่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 อยู่ระหว่างออกแบบ ซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถได้อีก 8 ล้านคน
นายเอนกกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของนากยกรัฐมนตรีที่ต้องการให้พัฒนาศักยภาพของสนามบินเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ในส่วนของ ทอท.ได้มีการศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างท่าอากาศยานเพิ่มเติม เบื้องต้นมี 2 โครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 (ท่าอากาศยานล้านนา) และ ท่าอากาศยานภูเก็ต แห่งที่ 2 (ท่าอากาศยานอันดามัน) วงเงินลงทุนรวม 1.5 แสนล้านบาท โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ แห่งที่ 2 คาดว่าจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 8 พันไร่ โดยจะมีการสร้าง 2 รันเวย์ วงเงินลงทุนรวมประมาณ 70,000 ล้านบาท คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 7-8 ปี
นายอเนกกล่าวด้วยว่า ขณะที่แผนการสร้างท่าอากาศยานภูเก็ต แห่งที่ 2 คาดว่าจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 7.3 พันไร่ โดยจะมีการสร้าง 2 รันเวย์ วงเงินลงทุนรวม 80,000 ล้านบาท คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 7-8 ปี เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ทอท.อยู่ระหว่างจ้างที่ปรึกษาทำการการศึกษาความเป็นไปได้ และความคุ้มค่าในการลงทุน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 7 เดือนหลังจากนี้ เมื่อแล้วเสร็จ จะเสนอให้กระทรวงคมนาคมอนุมัติก่อนเริ่มก่อสร้างต่อไป
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 29 กันยายน 2566