บลูมเบิร์กพบข้อมูลบ่งชี้ว่า บริษัทเทคโนโลยีไต้หวันหลายแห่ง กำลังช่วย "หัวเว่ย" สร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อก่อตั้งเครือข่ายโรงงานชิปล้ำสมัย สะเทือนอุตสาหกรรมชิปไต้หวันเสี่ยงถูกคว่ำบาตร

 

Key Points:

* Bloomberg News investigation ระบุว่า พนักงานหลายคนใส่เสื้อนิรภัยที่บ่งบอกถึงชื่อนายจ้างและโลโก้บริษัท ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจในเครือ Topco Scientific Co. ตัวแทนจำหน่ายชิปไต้หวัน และธุรกิจในเครือ L&K Engineering Co. ของไต้หวัน

* “ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ” ที่สมาชิกจากอุตสาหกรรมสำคัญของเกาะไต้หวัน เข้าช่วยหัวเว่ย บริษัทจีนที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร เพื่อพัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์

* “หวัง เหมย หัว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน เตรียมตรวจสอบความสัมพันธ์ธุรกิจไต้หวันกับหัวเว่ย ว่าละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐหรือไม่

 

บริษัทเทคโนโลยีไต้หวันหลายแห่ง กำลังช่วย "หัวเว่ย" สร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อก่อตั้งเครือข่ายโรงงานชิปทั่วภาคใต้จีน ซึ่งความร่วมมือที่พิเศษเช่นนี้ อาจเสี่ยงกระตุ้นความคุกรุ่นในเกาะประชาธิปไตย ที่กำลังเผชิญกับการสู้รบของรัฐบาลปักกิ่งมากขึ้น

 

 

พบบริษัทไต้หวันทำงานให้หัวเว่ย :

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันอังคาร (3 ต.ค.66) ว่า พื้นที่กว้างใหญ่ ของไซต์ก่อสร้างในเมืองเซินเจิ้น ที่ดำเนินการโดยธุรกิจที่หัวเว่ยสนับสนุน เต็มไปด้วยคนงานเมื่อช่วงปลายเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

 

ตามข้อมูลของ Bloomberg News investigation ระบุว่า พนักงานหลายคนใส่เสื้อนิรภัยที่บ่งบอกถึงชื่อนายจ้าง และโลโก้บริษัท ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจในเครือ Topco Scientific Co. ตัวแทนจำหน่ายชิปไต้หวัน และธุรกิจในเครือ L&K Engineering Co. ของไต้หวัน

 

ไซต์ก่อสร้างในเครือหัวเว่ยอีกแห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยพนักงานจาก United Integrated Services Co. บริษัทในเครือที่เชี่ยวชาญการก่อสร้าง 

 

ขณะที่ Cica-Huntek Chemical Technology Taiwan Co. ของไต้หวัน ระบุในเว็บไซต์ว่า บริษัทได้ทำสัญญาสร้างระบบซัพพลายเคมี ให้กับผู้ผลิตชิปจีน 2 แห่ง อาทิ Shenzhen Pensun Technology Co. และ Pengxinwei IC Manufacturing Co. ที่ติดแบล็กลิสต์ในสหรัฐเมื่อปีก่อน และพบว่าทั้งสองบริษัททำงานกับหัวเว่ย เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตชิป จากนั้นบริษัทก็ลบข้อมูลดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ เมื่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กถามเกี่ยวกับข้อมูลนี้

 

ไต้หวันเสี่ยงถูกคว่ำบาตร?

 

การดำเนินธุรกิจข้างต้น เกิดขึ้นในช่วงที่จีนคุกคามไต้หวันด้วยการปฏิบัติการทางทหารเป็นประจำ “ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ” ที่สมาชิกจากอุตสาหกรรมสำคัญของเกาะไต้หวัน เข้าช่วยหัวเว่ย บริษัทจีนที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร เพื่อพัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ และทลายกำแพงปิดกั้นของสหรัฐ

 

ต่อมาการคว่ำบาตรเหล่านั้นกลายเป็นที่น่าสงสัยมากขึ้น หลังหัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่มีชิปล้ำสมัยผลิตในจีน เมื่อปลายเดือนส.ค. ทำให้รัฐบาลวอชิงตันตื่นตระหนก และเรียกร้องให้ตัดขาดหัวเว่ยอย่างเด็ดขาด รวมถึงบริษัทผลิตชิป Semiconductor Manufacturing International Corp. (เอสเอ็มไอซี) ในเซี่ยงไฮ้

 

ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ระบุว่า นอกจากเอสเอ็มไอซีแล้ว หัวเว่ยกำลังสร้างเครือข่ายผลิตชิปเป็นของตัวเอง ด้วยเงินทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ จากการสนับสนุนของรัฐบาลจีน โดยหัวเว่ยเผยว่า บริษัทพึ่งพาธุรกิจสามแห่ง ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในเซินเจิ้น ได้แก่ Pengxinwei, Pensun และ SwaySure Technology Co. เพื่อช่วยหัวเว่ยเปลี่ยนการออกแบบชิปให้เป็นจริง

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า การมีส่วนร่วมของบริษัทไต้หวันละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐหรือไม่ เนื่องจากการจำกัดการค้าของสหรัฐ กีดกันการส่งออกเทคโนโลยีของอเมริกันให้หัวเว่ย มากกว่าจำกัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทอื่นๆ

 

ด้านโฆษกของหัวเว่ย และบริษัท L&K Engineering ยังไม่ตอบกลับคำขอแสดงความเห็นใดๆ

 

บริษัทไต้หวันยืนยันไม่เอี่ยวผลิตชิป :

 

โฆษกบริษัท Topco ยืนยันว่า บริษัทในเครือหัวเว่ย ทำสัญญาดำเนินการจัดการน้ำเสียให้กับบริษัท Pengxinwei ซึ่งการคว่ำบาตรของสหรัฐไม่ได้ห้ามทำโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม และ Topco เซ็นสัญญากับ Pengxinwei ก่อนติดแบล็กลิสต์ และไม่ได้จัดหาซัพพลายอุปกรณ์หรือวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ใดๆ ให้กับ Pengxinwei

 

ขณะที่บริษัท United Integrated Services ยืนยันว่า บริษัทในเครือหัวเว่ยทำสัญญาช่วยบริษัท SwaySure ปรับปรุงภายใน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงการ พร้อมยืนยันว่า บริษัทของตนกับบริษัทในเครือหัวเว่ย ร่วมทำแค่ธุรกิจก่อสร้าง โดยบริษัทแม่ไม่ได้ช่วยหัวเว่ยผลิต-ส่งออกแผ่นเวเฟอร์ หรืออุปกรณ์ผลิตชิปใดๆ

 

การได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไต้หวัน มีความสำคัญต่อหัวเว่ยในด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ และซัพพลายเออร์มองว่า การช่วยเหลือผู้ผลิตในเครือหัวเว่ย มีบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อย่าง ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) และช่วยสร้างเศรษฐกิจที่สามารถผลิตชิป 9 ใน 10 ชิปล้ำสมัยที่สุดของโลก

ทั้งนี้ ไต้หวันเคยให้คำมั่นสัญญาเมื่อปีก่อนว่า จะทำงานร่วมกับสหรัฐ และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้การทหารจีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย เนื่องจากไต้หวันต้องพึ่งพาอาวุธ และความปลอดภัยจากรัฐบาลวอชิงตันเป็นอย่างมาก แต่เชิน-ชี เฉิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ยอมรับว่า การควบคุมการส่งออกไปยังจีนมีความท้าทาย เนื่องจากนโยบาย civil-military fusion ของจีนที่บังคับนำนวัตกรรมเทคโนโลยีรวมกับการทำสงครามโดยปริยาย

 

รัฐบาลเล็งตรวจสอบ บ.เทคฯไต้หวัน :

 

“หวัง เหมย หัว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน เผยกับนักข่าวเมื่อวันอังคาร (3 ก.ย.66) ว่า หน่วยงานของเธอเตรียมตรวจสอบความสัมพันธ์ธุรกิจไต้หวันกับหัวเว่ย ว่าละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐหรือไม่ และจะติดต่อบริษัทต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค 

 

แหล่งข่าว เดอะ เซ็นทรัล นิวส์ เอเจนซี อ้างอิงเจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันเผยว่า ฝ่ายการลงทุนเตรียมตรวจสอบว่าบริษัทเหล่านั้น ดำเนินธุรกิจในจีนภายใต้ขอบเขตการอนุมัติของรัฐบาลไทเปหรือไม่

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กำลังตรวจสอบรายงานชิปชั้นสูงของบริษัทจีน

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 5 ตุลาคม 2566