ไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์จีดีพีจีน เตือน "วิกฤตอสังหาฯ" ลามกระทบศก.เอเชีย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2566 และ 2567 โดยระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลง และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงชะลอตัว
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนจะขยายตัว 5% ในปี 2566 และขยายตัว 4.2% ในปี 2567 ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระบุว่าจีดีพีจะขยายตัว 5.2% ในปี 2566 และขยายตัว 4.5% ในปี 2567
"สำหรับจีนนั้น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัวตั้งแต่เดือนเม.ย.จนถึงเดือนส.ค. และธุรกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวลง เราคาดว่าภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัยของจีนจะส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เผชิญปัญหาการเงินตึงตัวมากขึ้นในระยะใกล้นี้ และจะทำให้คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมถอยลงมากขึ้นด้วย"
"ผลกระทบดังกล่าวนี้อาจจะทำให้ตัวเลขจีดีพีของจีนปรับตัวลงมากถึง 1.6% ภายในปี 2568 และอาจจะฉุดจีดีพีโลกลดลงราว 0.6%" ไอเอ็มเอฟ ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (18 ต.ค.)
ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกในปี 2566 มีแนวโน้มที่สดใส โดยระบุว่าปีนี้จะเป็นปีที่ภูมิภาคแห่งนี้มีพลวัตที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมกับคงตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของเอเชียแปซิฟิกในปี 2566 ไว้ที่ 4.6% และเชื่อว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของภูมิภาคแห่งนี้จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ในอัตราส่วน 2 ใน 3
อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟ คาดว่า การขยายตัวของจีดีพีในเอเชียแปซิฟิกจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.2% ในปี 2567 และคาดว่าในระยะกลางนี้ จีดีพีจะชะลอตัวลงแตะระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีโดยไม่นับรวมปี 2563 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและประสิทธิภาพด้านการผลิตที่อ่อนแอลงในหลายประเทศ จะสร้างแรงกดดันต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 18 ตุลาคม 2566