"BOI" ส่งเสริมลงทุนกว่า 8 พันล้าน ดึงมูราตะปักหลักใช้ไทยเป็นฐานผลิต ทั้งชิ้นส่วนในเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และอีวี คาดทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่ง เริ่มเปิดดำเนินการเดือนตุลาคมปีนี้

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ในกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น (Multilayer Ceramic Chip Capacitor หรือ MLCC) กำลังการผลิตกว่า 9 หมื่นล้านชิ้นต่อปี

 

สำหรับ MLCC น้้น เป็นชิ้นส่วนสำคัญในเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่ปริมาณการใช้มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างจต่อเนื่อง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคัน จำเป็นต้องใช้ MLCC ประมาณ 3,000 – 8,000 ชิ้น/คัน 

 

ส่วนในสมาร์ทโฟน ประมาณ 500 -1,000 ชิ้น/เครื่อง โดยการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและสมาร์ทโฟนจึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ตลาด MLCC เติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

สำหรับโรงงานผลิต MLCC ของมูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ถือเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของมูราตะที่ครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกกว่า 40% 

 

"BOI"ส่งเสริมลงทุนกว่า 8 พันล้าน ดึงมูราตะปักหลักใช้ไทยเป็นฐานผลิต

 

ซึ่งโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานนอกญี่ปุ่นแห่งที่ 3 และเป็นการขยายฐานการผลิตครั้งใหญ่จากฐานเดิมที่ประเทศจีน และสิงคโปร์ โดยจะทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่ง และจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนตุลาคม 2566 นี้

 

“นักลงทุนญี่ปุ่น ถือเป็นนักลงทุนรายสำคัญของไทยตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งยังคงขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตสมัยใหม่เพื่อรองรับกระแสความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของญี่ปุ่นในภูมิภาค"  

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 27 ตุลาคม 2566