ผอ.WTO เตือน ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่กำลังดำเนินอยู่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก หากขยายวงไปไกลเกินภูมิภาคตะวันออกกลาง

 

นางเอ็นโกซี โอคอนโจ อิเวลาลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (30 ต.ค.) ระบุ "ถ้าความขัดแย้งขยายวงไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไปถึงส่วนอื่นๆ ของตะวันออกกลาง จะเกิดผลกระทบ พึงตระหนักว่าภูมิภาคนี้เป็นแหล่งพลังงานโลกอย่างมหาศาล ทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ซึ่งยังคงใช้กันมากทั่วโลก ดังนั้นคุณจะได้เห็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก เราได้แต่หวังว่าผลกระทบจะไม่มาก และสวดภาวนาขอให้เหตุการณ์อย่าบานปลายขอให้มีสันติภาพ"

 

ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาเป็นผลจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คร่าชีวิตประชาชน 1,400 คน รวมถึงชาวอเมริกัน และจับตัวประกันไปยังกาซาอีกเกือบ 240 คน

 

นักเศรษฐศาสตร์กำลังจับตาว่าหากสงครามอิสราเอล-ฮามาสขยายวงอาจสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ให้กับเศรษฐกิจโลก และอาจดันราคาพลังงานสูงขึ้น ขัดขวางเส้นทางการค้าหลัก

ผอ. WTO กล่าวด้วยว่า การเติบโตของการค้าโลก “ค่อนข้างมืดมัว” อยู่แล้ว เนื่องจาก “ความต้องการโดยรวมลดลงทั่วโลก”

 

WTO ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกประจำปี 2566 ท่ามกลางการผลิตทั่วโลกชะลอตัว

 

ในเดือน ต.ค. WTO ลดขนาดประมาณการการเติบโตของการค้าสินค้าทั่วโลกในปีนี้ เนื่องจากการตกต่ำอย่างต่อเนื่องที่เริ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ของปี 2565

 

ปัจจุบัน WTO คาดการณ์ปริมาณการค้าสินค้าทั่วโลกปีนี้ขยายตัว 0.8% ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ 1.7% ที่เคยประเมินไว้ในเดือน เม.ย. ส่วนปี 2567 ยังคงคาดการณ์ไว้ที่ 3.3% แทบไม่เปลี่ยนจากจากครั้งก่อน

 

“การฟื้นตัวของจีนหลังโควิดยังไม่แกร่งเท่าที่คาด ทั้งยังมีวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในจีน สหภาพยุโรปเองก็โตช้ากว่าที่หวัง สหรัฐดูเหมือนโอเคแต่ยังทรงๆ อุปสงค์โดยรวมลดลงหมดในภูมิภาคส่วนใหญ่และทั้งสองภาคส่วน เงินเฟ้อยังอยู่ อัตราดอกเบี้ยยังสูงขึ้นอีกนาน” ผอ.WTO ย้ำ 

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 30 ตุลาคม 2566