"คมนาคม" ปลุกเส้นทางรถไฟ "สิงคโปร์-คุนหมิง" บูม 5 ประเทศ
"คมนาคม" กางแผนเส้นทางรถไฟ "สิงคโปร์-คุนหมิง" 4.5 พันกม. หนุน 5 ประเทศ เดินหน้ารุกรถไฟทางคู่เฟส 2 วงเงิน 2.75 แสนล้านบาท ตั้งเป้าลุยทางคู่ภายในปี 70 ดันฮับด้านคมนาคมขนส่งภูมิภาค
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “โอกาสของไทยในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งภูมิภาคเชื่อมไทยเชื่อมโลก” ในงาน “4th iTIC FORUM 2023 : Power of Connectivity and Smart Mobility ว่า กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง ที่เชื่อมโยงทางรถไฟ 5 ประเทศ รวมระยะทางประมาณ 4,500 กิโลเมตร(กม.) ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, ลาว และจีน
ในปัจจุบันเป็นทางเดี่ยว เป็นทางคู่ให้ได้ในปี 70 เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมระดับภูมิภาคจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงเอเชียตะวันออก และเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารเดินให้สะดวก และรวดเร็วขึ้น รวมทั้งยังส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) ด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี(ปี 61-80) ด้วย
ทั้งนี้ในปัจจุบันเส้นทางสิงคโปร์-คุนหมิง เหลือเพียงช่วงชุมพร-ปาดังเบซาร์เท่านั้น ที่ยังเป็นทางเดี่ยว ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดให้เสนอช่วงดังกล่าว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด โดยในช่วงนี้มีอยู่ 3 เส้นทาง
ขณะที่ทางใต้ในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส)ที่ 2 ได้แก่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเปซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6.6 พันล้านบาท เบื้องต้นทราบว่าช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังฯ รฟท.จะเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) พิจารณาในเดือน พ.ย.66 และเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในปี 66
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า การที่ไทยจะเป็นฮับด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาคได้นั้น ต้องเร่งผลักดันโครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 ซึ่งมี 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,479 กม. วงเงิน 2.75 แสนล้านบาทด้วย เพราะจะทำให้เส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง มีความสมบูรณ์มากขึ้น
ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคม ยังอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างสะพานมิตรไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งใหม่ ซึ่งอยู่คู่ขนาน และห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) ประมาณ 30 เมตร โดยปัจจุบันกรมทางหลวง(ทล.) ได้ศึกษาแล้วเสร็จ และ รฟท. ได้ตั้งงบประมาณปี 67 เตรียมออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างสะพานฯ พร้อมทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) แล้ว
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นผลการศึกษาฯ ระบุว่า จะก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงก่อน ส่วนสะพานรถยนต์ไว้ทีหลัง เนื่องจากสะพานเดิมยังสามารถรองรับจำนวนรถยนต์ได้อยู่ ทั้งนี้คาดว่า รฟท. จะใช้เวลาดำเนินการออกแบบรายละเอียดฯ ประมาณ 1 ปี
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566