สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงมีพระราชดำรัสระหว่างเปิดประชุมรัฐสภา ที่รัฐสภาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรัสเรื่องผผลของการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) กับเศรษฐกิจ และสงครามอิสราเอล-ฮามาส

 

วันที่ 7 พฤศจิกายน มติชนรายงานอ้างอิงบีบีซี (BBC) ว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงมีพระราชดำรัสระหว่างเปิดประชุมรัฐสภา ที่รัฐสภาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

พระราชดำรัสเปิดประชุมรัฐสภาทรงเริ่มต้นด้วยการเทิดพระเกียรติการทรงงานอย่างอุทิศพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชมารดา จากนั้นทรงตรัสยอมรับถึงความท้าทายในระยะเวลายาวนานที่อังกฤษได้เผชิญจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการที่รัสเซียบุกยูเครน และตรัสถึงสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ การตัดสินใจที่ยากลำบากหากแต่ว่าจำเป็นต้องทำที่จะส่งผลในระยะยาวอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ประเทศชาติดีขึ้นกว่าเดิม

 

ในโอกาสเดียวกันนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงตรัสถึงเรื่องการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วยว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการต่าง ๆ เพื่อทำให้เศรษฐีมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ทรงตรัสว่ากฎหมายจะถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการค้า และการลงทุนในระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก

 

“รัฐมนตรีของข้าพเจ้าจะเดินหน้าเจรจาทำข้อตกลงทางการค้าด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีพลวัต ทำให้มีการจ้างงาน และความเจริญก้าวหน้าในสหราชอาณาจักร”

 

นอกจากนั้น ยังตรัสถึงสถานการณ์สงครามในยูเครน และสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสว่า

“รัฐมนตรีของข้าพเจ้าจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรนานาประเทศเพื่อสนับสนุนยูเครน เสริมความเข้มแข็งในกลุ่มนาโต และดำเนินการจัดการกับความท้าทายทางด้านความปลอดภัยที่เร่งด่วนที่สุด ซึ่งยังรวมถึงผลสืบเนื่องต่าง ๆ ที่ตามมาจากการกระทำอันป่าเถื่อนต่อประชาชนอิสราเอล การอำนวยความสะดวกให้ความสนับสนุนด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และสนับสนุนให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง”

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566