เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นภัยคุกคามโลก เนื่องจากไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ไปกำลังแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก

 

นางมาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ WHO และรักษาการผู้อำนวยการหน่วยงานด้านการเตรียมความพร้อมและป้องกันการแพร่ระบาดของการระบาดใหญ่ กล่าวเตือนถึงเรื่องนี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ WHO เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนว่า ขณะนี้ไวรัส SARS-CoV-2 กำลังแพร่ระบาดในทุกประเทศและยังคงเป็นภัยคุกคาม

 

“เราต้องเฝ้าระวังต่อไป เพราะไวรัสกำลังแพร่กระจาย พัฒนาและเปลี่ยนแปลง” เคอร์โคฟระบุ โดยปัจจุบันมีเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยที่น่าสนใจ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5, XXB.1.16 และ EG.5 และมีเชื้อกลายพันธุ์ที่น่าจับตา อีก 6 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นระดับที่น่ากังวลต่ำกว่า ซึ่ง 1 ใน 6 เชื้อกลายพันธุ์นี้ คือ สายพันธุ์ย่อย BA.2.86 ที่กำลังจะถูกปรับขึ้นเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่าสนใจขององค์การอนามัยโลก

 

นางเคอร์โคฟกล่าวว่า เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงรุนแรงเมื่อเทียบกับเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยอื่นๆ แต่เราเห็นการตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์นี้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และมั่นคงทั่วโลก โดยการจำแนกประเภทใหม่ควรช่วยส่งเสริมการเฝ้าระวังและการวิจัย

 

นอกจากนี้ WHO ยังเผยแพร่การประเมินความเสี่ยงใหม่สำหรับเชื้อกลายพันธุ์ EG.5 ซึ่งแสดงถึงการมีอยู่ราวครึ่งหนึ่งของลำดับสายพันธุ์ที่มีทั่วโลก แม้ว่า WHO จะไม่ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงในความรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์นี้ก็ตาม

 

WHO ยังแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของโรคโควิด-19 คือ ภาวะลองโควิด หรือภาวะหลังโควิดอีกด้วย โดยเคอร์โคฟกล่าวว่า เรามีหลักฐานว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหลังโควิดได้ ซึ่งทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 13,500 โดส

 

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ปรากฏขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2019 ก่อนที่ WHO จะประกาศให้เป็นวิกฤตสาธารณสุขโลกเมื่อวันที่ 30 มกราคมปี 2020 กระทั่งยกเลิกคำประกาศดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมปีนี้นั้น ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปหลายล้านคนและสร้างความหายนะอย่างหนักทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566