ในกรอบการประชุมสภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศย่านเอเชีย – แปซิฟิกครั้งที่ 11 หรือ AP11 เมื่อบ่ายวันที่ 21 ที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย บรรดาผู้แทนจากสภากาชาดกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคได้หารือเกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการและแผนการด้านมนุษยธรรมระดับภูมิภาคและโลกในยุคใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพในกรอบและกลไกความร่วมมือระหว่างองค์กรสภากาชาดของประเทศต่างๆ ในการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรม ซึ่งต้องสร้างสรรค์เครือข่ายเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ปลอดภัยให้แก่ชุมชนย่านเอเชีย – แปซิฟิก

 

“ การป้องกันและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของสภากาชาดสาธารณรัฐเกาหลีแต่เมื่อเร็วๆนี้ เราก็ตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาทของความร่วมมือในด้านนี้ จึงมีแผนการปฏิบัติคือ จะบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามธรรมชาติให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2025 และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดภายในปี 2030”

 

“ติมอร์เลสเตเป็นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งและเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับแปซิฟิก ถ้าหากมองในแง่ภูมิศาสตร์ เราต้องรับมือภัยธรรมชาติมากมาย ทางสภากาชาดของเราตระหนักได้ดีว่า ถ้าหากรับมือกรณีฉุกเฉิน ภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติก็ต้องการความพยายามแบบหมู่คณะ ในทุกระดับ รวมถึงในระดับนานาชาติ”

 

“การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นปัญหาร้อนระอุที่มาเลเซียต้องรับมือในหลายปีมานี้ ทางสภากาชาดมาเลเซียให้คำมั่นที่จะเพิ่มการปฏิบัติ ใช้ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับชุมชนในท้องถิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ”