"เอ็กซิมแบงก์" กางปัจจัยเสี่ยงกระทบส่งออกปี 67 แนะประเทศเพิ่มโอกาสค้าขาย
นายกิตติภูมิ พงษ์สุรพิพัฒน์ ผู้บริหารส่วนวิจัยต่างประเทศฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า โอกาสในการส่งออกที่ขยายตัวสูง มุ่งเน้นไปยังประเทศแอฟริกาใต้ ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค มีจำนวนประชากรเยอะ เป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของภูมิภาค รวมถึงเป็นประตูการค้าที่สำคัญของภูมิภาคแอฟริกา เชื่อมโยงสู่สหรัฐ ยุโรป และเอเชียได้ ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการปฏิรูปเศรษฐกิจด้วย รวมถึงซาอุดิอาระเบีย ที่มีการฟื้นความสัมพันธ์กับไทย เป็นมหาอำนาจในภูมิภาค มีจำนวนประชากรที่เป็นวัยหนุ่มสาวเยอะ และเป็นประเทศรายได้สูง ซึ่งต้องการเม็ดเงินลงทุนและสินค้าในการเข้าไปเติมเต็มการปฏิรูปประเทศและเศรษฐกิจมากขึ้น
นายกิตติภูมิ กล่าวว่า ความเสี่ยงของการส่งออกไทย ได้แก่ ภูมิรัฐศาสตร์ สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ที่อาจลุกลามไปในภูมิภาคได้ แต่สงครามที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้สนผลกระทบกับการส่งออกของไทยมากนัก ทั้งในแง่ของสินค้าและการชำระ เพียงแต่ความเสี่ยงในแง่ภูมิภาคมีมากขึ้น อย่างกรณีกลุ่มกบฏที่ยึดเรือขนส่งสินค้าในทะเล ที่เป็นความเสี่ยงมากกว่าเดิม ทั้งยังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งจีนและไต้หวัน ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยสูง และวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ ซึ่งต้องจับตามองว่าปี 2567 จะมีปัญหาอะไรผุดขึ้นมาอีกบ้าง
นายกิตติภูมิ กล่าวว่า ประเทศที่ไทยเตรียมทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) แต่ยังค้างการเจรจาอยู่ ได้แก่ ศรีลังกา ตุรกี ปากีสถาน ซึ่งปัจจุบันมี 14 ฉบับ รวม 18 ประเทศ คิดเป็น 60% ของมูลค่าการค้าโลกกับไทย โดยมองว่ารัฐบาลควรเร่งเดินหน้าเจรจาให้แล้วเสร็จ รวมถึงประเทศอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม อาทิ เกาหลีใต้ แอฟริกาตอนกลาง ตอนล่าง อิสราเอล ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงมีความต้องการ (ดีมานด์) สินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยหากรัฐบาลเพิ่มเอฟทีเอได้มากขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกที่มีต่อแต้มต่อทางการค้ามากขึ้นด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566