การท่องเที่ยวปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา 100% เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยว 2024
การท่องเที่ยวปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา 100% เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยว 2024 จะเป็นเช่นไร “ฐานเศรษฐกิจ” ได้จับประเด็นจาก Booking.com, Expedia และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มานำเสนอ
เปิด 10 เทรนด์ท่องเที่ยว 2024 :
AI ผู้ช่วยการเดินทาง :
ปี 2567 Expedia ระบุว่านักท่องเที่ยวสนใจใช้ Generative AI และกำลังจะกลายเป็นหนึ่งเครื่องมือที่จำเป็นสำคัญต่อการวางแผนท่องเที่ยวในอนาคต โดยนักเดินทางมีแนวโน้มจะใช้ AI เพื่อช่วยค้นหาโรงแรมหรือที่พักให้เช่า รวมถึงใช้เพื่อเปรียบเทียบตัวเลือกเที่ยวบิน โรงแรม ร้านอาหาร และใช้ค้นหากิจกรรมที่น่าสนใจ
ความฉลาดของ AI ช่วยให้การจัดการทริปท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องเปิดใจ นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มา ยกระดับการบริการ เช่น การตอบคำถาม การใช้ความช่วยเหลือลูกค้า เป็นต้น
หนีร้อนไปพึ่งเย็น ;
หลายภูมิภาคทั่วโลกสัมผัสถึงปรากฏการณ์ “คลื่นความร้อน” รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหาทางหนีกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวไปสู่สถานที่ที่เย็นกว่า เพื่อเยียวยาตนเอง สถานที่ที่เย็นกว่าไม่ใช่แค่ฤดูหนาว หิมะ หรือนํ้าแข็งเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวสัมพันธ์กับ “นํ้า”
เช่น ทะเล มหาสมุทร ทะเลสาป สระว่ายนํ้า ผู้ประกอบการควรปรับปรุงบริการให้ตอบสนองความคาดหวังเรื่อง “ความเย็น” เช่น การแสดงข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เสริมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องปรับอากาศ ทำเลที่ตั้งที่ใกล้แหล่งนํ้า สระว่ายนํ้า หรือพื้นที่กลางแจ้ง การอัปเดตสภาพอากาศ เป็นต้น
นักเฟ้นหาอาหาร :
คนมีแนวโน้มสนใจจะเรียนรู้ต้นกำเนิดของอาหารที่เคยรับประทาน พฤติกรรมท่องเที่ยวดังกล่าวเรียกว่า “นักเฟ้นหาอาหาร” ผู้ประกอบการท่องเที่ยวควรสร้างสรรค์อาหารที่น่าสนใจ ต่อยอดเป็นจุดขาย ลองทำงานร่วมกับคนในท้องถิ่นเพื่อหยิบยกวัฒนธรรมอาหารต้นตำรับ มานำเสนอคุณค่าแก่นักเดินทาง
การเปิดรับเทรนด์ “ตะลุยชิม” สามารถดึงดูดผู้เดินทางสายกินเข้ามามากขึ้น ผู้ประกอบการอาจนำข้อมูลเกี่ยวกับอาหารมาประยุกต์เข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น การเชื่อมโยงเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ หรือจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ อาทิ เวิร์กช็อปด้านอาหารในที่พัก เป็นต้น
หรูหรา คุ้มค่าเงิน :
“ความคุ้มค่า” จะมีนํ้าหนักมากขึ้นสำหรับการพิจารณาเลือกแผนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มกระเป๋าหนัก ต้องการที่จะลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีความคิดที่จะเลือกซื้อบริการเฉพาะของทางโรงแรมแบบรายวัน แทนที่ การเข้าพักแบบปกติ เพื่อใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมหรูอีกด้วย
การยกระดับประสบการณ์ด้วยราคาสบายกระเป๋าเป็นโอกาส ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จำเป็นต้องนำเสนอแพ็กเกจที่มีความเฉพาะและหลากหลายมากขึ้น ภายใต้ราคาที่เข้าถึงง่าย อัปเกรดประสบการณ์และข้อเสนอที่น่าสนใจได้อย่างตรงใจของนักท่องเที่ยว
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 21 มกราคม 2567