แอตต้า ชี้ อานิสงส์ฟรีวีซ่าจีน คาดเที่ยวไทยทั้งปี 8 ล้านคนตามเป้า ย้ำยังต้องบุกตลาดเพิ่ม
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า แนวโน้มเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ที่ใกล้จะถึงนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวหลักอย่างประเทศจีนดูดีขึ้นมาก โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเฉลี่ยเข้ามาแตะ 2 หมื่นคนต่อวัน
สะท้อนจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างพระบรมมหาราชวัง มีจำนวนต่อวันสูงมาก ทำให้แนวโน้มจากยอดจองล่วงหน้า แพลตฟอร์มท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยว (เอเยนต์) มีแนวโน้มดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลไทยและจีน ประกาศการยกเว้นวีซ่า หรือวีซ่าฟรีถาวรระหว่างกัน ทำให้การท่องเที่ยวในภาพใหญ่ตื่นตัวขึ้นค่อนข้างมาก จึงคาดการณ์ว่า เป้าหมายตลาดนักท่องเที่ยวจีนทั้งปี 2567 ที่ตั้งไว้จำนวน 8 ล้านคน มีความเป็นไปได้มากขึ้นพอสมควร
แต่ยังต้องมาพิจารณาปัจจัยสนับสนุนแวดล้อมด้วย อาทิ มาตรการส่งเสริมเที่ยวบินที่ต้องเพิ่มขึ้น จะสามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากน้อยเท่าใด การกระจายตัวของเที่ยวบินไปยังเมืองรอง เพื่อกระจายนักท่องเที่ยว และการทำตลาดเมืองรองของไทยในจีน
สามารถบินตรงเข้ามาเที่ยวไทยได้ ส่วนนี้จะเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบหลักว่า จะทำได้ตามเป้าหมาย 8 ล้านคนหรือไม่
“ปัจจัยเรื่องเส้นทางการบินและจำนวนเที่ยวบินนั้น เนื่องจากตอนนี้ความต้องการ (ดีมานด์) ฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทำให้ต้องมาดูว่า ขีดความสามารถในการองรับดีขึ้นมากน้อยเท่าใด เพราะมีผลต่อราคาตั๋ว โดยมาตรการของรัฐบาลจะทำต่อจากนี้ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ บินตรงจากเมืองรองในจีนเข้ามาเที่ยวเมืองรองไทยด้วยนั้น คงต้องติดตาม เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำโดยจีน เข้ามาเที่ยวไทยได้มากขึ้น” นายอดิษฐ์กล่าว
นายอดิษฐ์กล่าวว่า ตลาดจีนเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 ล้านคนนั้น แอตต้าประเมินว่าปี 2567 จำนวน 6-7 ล้านคนสามารถเป็นไปได้แน่นอน แต่จำนวน 8 ล้านคนนั้น หากจะไปให้ถึง รัฐบาลยังต้องมีมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการในการทำตลาดร่วมกันมากขึ้น อาทิ การใช้งบประมาณสนับสนุนส่วนต่างกระตุ้นให้เกิดเที่ยวบินจากเมืองรองในจีนออกมาเที่ยวไทย เป็นเที่ยวบินพิเศษเพื่อกระจายนักท่องเที่ยว
ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็เคยใช้มาตรการเหล่านี้มาแล้วด้วย รวมถึงปัจจุบันก็มีการทำรูปแบบส่งเสริมการขายแบบนี้ในต่างประเทศเช่นกัน อาทิ จีน เมืองฉงชิ่ง ในจำนวน 1 เที่ยวบิน หากมีจำนวน 100 คนขึ้นไป จะจ่ายส่วนสนับสนุนให้ 1,000 บาทต่อคน ถือเป็นตัวสร้างแรงจูงใจให้เกิดเที่ยวบินเมืองรองกับเมืองรองเชื่อมโยงท่องเที่ยวระหว่างกัน ผู้ประกอบการก็มีหน้าที่ในการทำตลาด ใช้กลยุทธ์ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป
นายอดิษฐ์กล่าวว่า กรณีการไลฟ์สดขายสินค้าไทยให้กับชาวจีน โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมรายการถ่ายทอดสด Super World Tour BOSS LIVE ภายใต้โครงการ “เที่ยวไทยที่ 1 ในใจจีน” ผ่านแอพพลิเคชั่น Ctrip โดยมองว่ารูปแบบดังกล่าว ถือเป็นการทำตลาดเดินทางเอง (เอฟไอที) ส่งผลทางตรงกับโรงแรม สถานประกอบการและแหล่งท่องเที่ยว
แต่สำหรับผู้ประกอบการนำเที่ยวอาจไม่ได้มีผลประโยชน์ทางตรงมากนัก เพราะไม่ได้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่แอตต้าดูแล แต่ก็ได้ทางอ้อมในเรื่องความเชื่อมั่น เนื่องจากการทำตลาดแบบนี้ เมื่อมีกระแสตอบรับออกมาดี ก็เป็นการสร้างจิตวิทยาเชิงบวก สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางเองมีความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัย จึงมีการซื้อแพคเกจที่ขายเหล่านั้น ถือเป็นการดึงความมั่นใจกลับคืนมา
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567