"Bangkok Water Festival 2024" เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย ชวนสัมผัสเสน่ห์สองฟากฝั่งริม "คลองโอ่งอ่าง" เช็คอิน ชิม ช็อป และตักบาตรทางน้ำรับปีใหม่ไทย ตอกย้ำ Landmark การท่องเที่ยวระดับโลก

 

 

“Bangkok Water Festival 2024” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเตรียมปักหมุดเดินทางมาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์งานสงกรานต์ประเทศไทย เพลิดเพลินไปกับเทศกาล “วิถีน้ำ…วิถีไทย” ให้ “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ทั่วหล้า อลังการพร้อมกันทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคกลาง จัดที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร บน Landmark หลักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ท่ามหาราช, ท่ายอดพิมาน, ท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ท่าศาลเจ้ากวนอู รวมไปถึง ภาคเหนือ จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้

 

 

 

 

พร้อมขยายพื้นที่การจัดงานสู่คลองโอ่งอ่าง-สะพานหัน-วัดบพิตรพิมุข อีกหนึ่ง Landmark การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งยังเป็นต้นแบบในด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ (Landscape Improvement Project) ที่การันตีด้วยรางวัล Asian Townscape Awards จาก UN-Habitat Fukuoka ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของสถานที่ในโลกที่ได้รางวัลนี้เมื่อปี 2022 ที่ขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเพลินใจไปกับ “เทศกาล วิถีน้ำ…วิถีไทย” ร่วมก้าวข้ามปีใหม่ไทยอย่างงดงามด้วยการไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคล สืบสานประเพณีตักบาตรทางน้ำ ที่จะเนรมิตขึ้นอย่างดีงามตลอดสองฟากฝั่งริมคลองโอ่งอ่าง รับอรุณรุ่งในเช้าของวันปีใหม่ไทยในวันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2567 

 

ก่อนที่จะมาร่วมสนุก และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมายตลอด 3 วันเต็ม อาทิ พายเรือคายัคกับทริปเจาะเวลาหาอดีตที่คลองโอ่งอ่างสุด Exclusive กับทริปเจาะเวลาหาอดีตสัมผัสมนต์เสน่ห์ของวิถีชุมชนริมน้ำสมัยรัชกาลที่ 1 กับเรื่องเล่าสองฟากฝั่งตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุจนถึงสะพานวัดบพิตรพิมุข และกิจกรรมปั่นจักรยาน ปั่นเพลินวิถีไทย ร่วมกับ Jamming Thailand เป็นกลุ่มจักรยานท้องถิ่น ดื่มด่ำบรรยากาศ สุดชิลล์ ชม ชิม ช้อป อิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารเด็ดเจ้าดังมากมาย ตลอดสองฝั่งคลอง เช็คอินจุดถ่ายภาพเก็บภาพที่ระลึกสุดประทับใจในแบบที่คุณไม่ควรพลาด และขอเชิญชวนร่วมสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงวัยและเพลิดเพลินกับการแสดงจากสภาวัฒนธรรม การแสดงดนตรีเปิดหมวกจากนักเรียน นักศึกษา ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

 

ส่วนการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือ MRT สถานีสามยอด แล้วเดินข้ามมาที่สะพานดำรงสถิต หรือสะพานเหล็ก เดินให้เพลินใจไปกับภูมิทัศน์ และบรรยากาศลมเย็นๆ ดีต่อไป ร้านค้าและร้านอาหารมากมาย แถมยังมีจุดให้ได้แช๊ะภาพเช็คอินกันได้ตลอดแนวกับกำแพง และตึกสไตล์ Old Town ของกราฟฟิตี้ (Graffiti) และงานอาร์ตตลอดทางเดินที่เนื้อหาส่วนใหญ่สะท้อนเรื่องราวของชุมชนคลองโอ่งอ่าง ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คการถ่ายรูปที่ใครมาแล้วเป็นต้องแวะถ่ายภาพก็คือสะพานหันที่จะมีลานเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเล่นสุดชิลล์ไปกับบรรยากาศ แถมยังมีวงดนตรีมาบรรเลงเพลงเพราะๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ฟินใจกันในช่วงยามเย็น อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับตลาดสำเพ็ง และพาหุรัดทำให้มีนักท่องเที่ยว และผู้คนคึกคักตลอดแนว

 

แถมงานนี้ต้องขอบอกว่าสายวัด สายมู ไม่ควรพลาดที่จะเข้ามากราบสักการะขอพรหลวงปู่ไข่ อินทสโร หนึ่งในห้าเกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งด้านเมตตาธรรม และวัตถุมงคลที่เป็นที่ศรัทธาอย่างกว้างขวางกันที่วัดบพิตรพิมุขราชวรวิหาร ก่อนที่จะมากราบสักการะท้าวเวส สุวรรณ เทพผู้ยิ่งใหญ่ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ที่อยู่อีกด้านของวัดบพิตรพิมุขริมคลอง โองอ่าง สำหรับวัดนี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมเรียกว่า "วัดเชิงเลน" หรือ "วัดตีนเลน" 

 

กระทั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้สถาปนากรุงเทพมหานคร ขึ้นเป็นเมืองหลวงนั้น กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข จึงได้ทรงสถาปนาวัดเชิงเลนขึ้นมาใหม่ตลอดทั้งอาราม จากนั้น ที่ 1 ก็ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัด ของกรมพระราฃวังหลัง เป็น "วัดบพิตรพิมุขราชวรวิหาร" ซึ่งวัดนี้ได้ทำการ พระราชทานถวายเพลิงพระศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงจักรเจษฎา พระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย ครั้นถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็เสด็จ โดยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์มาทอดพระกฐินทางชลมารคยังวัดนี้ อีกทั้งยังโปรดฯ ให้สร้างพลับพลาที่ประทับรับเสด็จด้วย ซึ่งปัจจุบันพลับพลาที่ประทับนี้ได้ปรับเป็นหอสมุด และเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงโบราณวัตุ และพื้นที่ส่วนหนึ่งของวัดยังถูกแบ่งพื้นที่เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาสายอาชีพอีกด้วย

 

คุณวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เผยว่า “คลองโอ่งอ่าง เป็นเส้นแบ่งระหว่างเขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร เป็นหนึ่งชุมชนที่ได้รับรางวัล 2020 Asian Townscape Awards จาก UN-Habitat Fukuoka ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นต้นแบบของการปรับปรุงภูมิทัศน์ (Landscape Improvement Project) ปีนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์พื้นที่คลองโอ่งอ่างเป็นหนึ่งใน 11 ท่าน้ำ ที่จัดงาน Bangkok Water Festival 2024 เพื่อช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้ตื่นตัว และทำให้พื้นที่นี้คึกคึกด้วยกิจกรรมมากมาย อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างแหล่งท่องเที่ยว และทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายของ”

 

 

 

คุณพินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตสัมพันธวงศ์ เสริมต่อว่า “หากกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดี เราพร้อมที่จะผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมเช่นนี้ในทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เพื่อสร้างความสุขให้คนในพื้นที่และคนกรุงเทพฯทุกคนต่อไป ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมกิจกรรมเช็คอิน ชิม ช๊อป ได้ที่งาน Bangkok Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย อาทิ ตักบาตรทางน้ำ สรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ การแสดงเปิดหมวกจากนักเรียน กิจกรรมพายเรือคายัค นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจากชุมชน อาหารเลื่องชื่อ อาทิ ร้านก๊วยจั๊บ ร้านกุ๊ยฉ่าย ร้านไอติมไต้หวัน เป็นต้น นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ที่มาร่วมงาน”

 

ร่วมสืบสานประเพณี และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พร้อม “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” กับ “ Bangkok Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ให้ “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ไปพร้อมกันที่คลองโอ่งอ่าง วันที่ 13-15 เมษายน นี้ และร่วมประกวด “Vlog Walking Tour : เที่ยวเทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย เย็นฉ่ำชื่นใจ ไทยทั่วหล้า” เพื่อชิงรางวัล ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook: Water Festival Thailand

 

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 5 เมษายน 2567