เนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 25 ปีที่กรุงฮานอยได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็น “นครเพื่อสันติภาพ” ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม ฝ่ายบริหารของโบราณสถานเรือนจำหวาหล่อได้เปิดนิทรรศการเชิงวิชาการภายใต้ชื่อ "เส้นทางแห่งมรดก" ซึ่งช่วยให้ผู้ชมเห็นแง่มุมที่จริงจังและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโบราณสถานที่คุ้นเคยต่างๆ ในกรุงฮานอย

 

ที่บริเวณระเบียงของเรือนจำหวาหล่อมีการจัดแสดงภาพและข้อมูลต่างๆของโบราณสถานทางวัฒนธรรม การปฏิวัติและสถานที่ที่เกี่ยวข้องถึงเหตุประวัติศาสตร์ต่างๆ ของกรุงฮานอยอย่างมีชีวิตชีวา โดยได้รับการออกแบบอย่างกลมกลืนด้วยสีหลักคือสีเขียวที่สื่อความหมายของปัจจุบัน ความเชื่อมั่น ความคาดหวังและความคิดสร้างสรรค์ และสีเหลือง ที่หมายถึงอดีตและประวัติศาสตร์ที่ยืนยาว การจัดนิทรรศการเชิงวิชาการนี้ประจวบกับโอกาสรำลึกครบรอบ 25 ปีองค์การยูเนสโกรับรองกรุงฮานอยเป็น “นครเพื่อสันติภาพ” ซึ่งตั้งความหวังว่า จะมีส่วนร่วมส่งเสริมคุณค่าของโบราณสถานต่างๆ ในกรุงฮานอย ดึงดูดผู้ที่สนใจมาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกรุงฮานอย โดยเฉพาะโบราณสถานทางประวัติศาสตร์เรือนจำหวาหล่อ นาง หลาถิบิ๊กถวี พนักงานของโบราณสถานเรือนจำหวาหล่อ กล่าวว่า

 

“การจัดนิทรรศการ “เส้นทางแห่งมรดก” แนะนำเอกสารและภาพลักษณ์เกี่ยวกับโบราณสถานทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานการปฏิบัติ รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ของกรุงฮานอยที่เก็บไว้ความทรงจำ เป็นร่องรอยแห่งชัยชนะและก้าวพัฒนาของขบวนการปฏิวัติเวียดนาม เป็นความสำนึกในบุญคุณต่อการอุทิศเลือดเนื้อของเจ้าหน้าที่ทหารในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติและกรุงฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่กล้าหาญและนครเพื่อสันติภาพ มีส่วนร่วมศึกษาเกียรติประวัติแห่งความรักชาติ ความภาคภูมิใจของประชาชนและความรับผิดชอบในการปกป้องอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของประชาชาติในภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาระบบวัฒนธรรมเวียดนามที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัย”

 

 

การจัดแสดงครั้งนี้ได้ช่วยให้ผู้ชมสามารถศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผ่านกิจกรรมที่มีสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส เช่น หอนิทรรศการ เด๊าสาว ที่ก่อสร้างโดยทางการปกครองของนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสช่วงปี 1899-1902 บนถนน Gambetta ซึ่งตอนนี้เป็นหอวัฒนธรรมแรงงานมิตรภาพเวียดนาม – โซเวียด ที่ถนนเจิ่นฮึงด๋าว บ้านเลขที่ 90 ถนน Jean Soler ซึ่งตอนนี้คือถนนเถอะหญวม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของคณะกรรมกลางพรรคชั่วคราวและเป็นสถานที่ที่ท่าน เจิ่นฟู้ อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เขียนร่างระเบียบการทางการเมืองของพรรคฯ เมื่อปี 1930 บ้านเลขที่ 5D ถนน Doudart de Lagreé 

 

ตอนนี้คือถนนห่ามลอง ซึ่งเป็นสถานที่จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์สาขาแรกในเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมปี 1929 ธนาคารอินโดจีนสาขากรุงฮานอยในถนน Courbetตอนนี้เป็นถนนลี้ท้ายโต๋ ซึ่งเป็นสถานที่ที่อดีตเลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนวันกื่อ เขียนบทความ “วิภาควิจารณ์ตนเอง” เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 1939 บ้านเลขที่ 101 ถนน Gambettaตอนนี้เป็นถนนเจิ่นฮึงด๋าว ซึ่งเป็นสำนักงานของคณะกรรมการทหารปฏิวัติฮานอยหรือคณะกรรมการลุกขึ้นสู้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 1945 เป็นต้น นอกจากนี้ สาธารณะชนยังมีโอกาสศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผ่านโบราณสถานที่คุ้นเคยต่างๆ เช่น โรงละครใหญ่ฮานอย ป้อมปราการ “หลาง” จตุรัสการปฏิวัติเดือนสิงหาคม จตุรัสบ่าดิ่งห์ เรือนจำหวาหล่อ สะพานลองเบียน หอธงชาติในกรุงฮานอย ศาลกรุงฮานอย ตลาดด่งซวนและบังเกอร์ในถนนห่างจ๊ง เป็นต้น

 

สำหรับผู้ชมสูงวัยที่มาดูภาพถ่ายและเอกสารเกี่ยวกับโบราณสถานที่มีชื่อเสียงของกรุงฮานอย ต่างก็หวนรำลึกถึงความทรงจำต่างๆด้วยความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก นาย เหงียนก๊วกฮึง นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกล่าวว่า

“เมื่อได้ชมการจัดแสดงครั้งนี้ ผมรู้สึกเหมือนกลับไปสู่อดีต ซึ่งช่วงที่กรุงฮานอยยังประสบความยากลำบากต่างๆ เมื่ออ่านหมายเหตุก็ยิ่งรัก ยิ่งเข้าใจและยิ่งภูมิใจเกี่ยวกับเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์ของกรุงฮานอยที่มีอายุยืนยาวนับพันปี หวังว่า คนรุ่นใหม่เวียดนามจะเข้าใจและมีส่วนร่วมธำรงอนุรักษ์โบราณสถานเหล่านี้ให้คงอยู่ตลอดกาล”

 

จุดเด่นของนิทรรศการคือการออกแบบการจัดแสดงอย่างสร้างสรรค์ด้วยการสร้างจุดที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ เพื่อเล่าเรื่องเส้นทางแห่งมรดกช่วยให้ผู้ชมตระหนักได้ดีเกี่ยวกับความงาม คุณค่าและความหมายของโบราณสถานเหล่านี้ นาง ห่าเวินญี จากเขตด๊งดา กรุงฮานอย กล่าวว่า

 

“การตกแต่งที่นี่น่าทึ่งและดึงดูดผู้ชมมาก ดิฉันประทับใจต่อข้อมูลเสนอสถานที่ต่างๆ ถึงแม้เกิดและโตในกรุงฮานอย ทุกวันก็เดินผ่านโบราณสถานเหล่านี้แต่ไม่ค่อยรู้อะไรมากนักเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสถานที่เหล่านี้”

บนโปสเตอร์พิมพ์ภาพจากอดีตสู่ปัจจุบัน เล่าเรื่องกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ต่างๆ โดยมีคำบรรยายทั้งภาษาเวียดนามและภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผู้ชมทั้งภายในและต่างประเทศสามารถเข้าใจได้ง่าย นาย โด๋วันนัม เขตลองเบียน กรุงฮานอย แสดงความคิดเห็นว่า

 

“สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือคุณค่าวัฒนธรรมเพราะได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคนฮานอยด้วย ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เหล่านี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่า กรุงฮานอยในปัจจุบันได้พัฒนาอย่างข้ามขั้น” 

ส่วนนาย Brian นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกล่าวว่า

 

“น่าสนใจมาก เราเพิ่งไปชมสะพานลองเบียน และวันนี้มาที่นี่ก็ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสะพานแห่งนี้ แม้มีอายุยืนยาวแต่ดูเหมือนว่า สะพานแห่งนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมาก แต่เมื่อดูทิวทัศน์โดยรอบ ก็จะเห็นว่า ฮานอยในวันนี้พัฒนามากแล้ว”

 

“เส้นทางแห่งมรดก” เป็นการเชื่อมโยงระหว่างปัจจุบันกับอดีต ประสาสัมพันธ์เกี่ยวกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติและจิตใจแห่งความรักชาติ ซึ่งนิทรรศการจะจัดไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน ณ โบราณสถานทางประวัติศาสตร์เรือนจำหวาหล่อ เลขที่ 1 ถนนหวาหล่อ แขวงเจิ่นฮึงด๋าว เขตหว่านเกี๊ยม กรุงฮานอย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีความหมายเป็นอย่างมากเพื่อมุ่งสู่การรำลึกครบรอบ 70 ปีวันปลดปล่อยกรุงฮานอย 10 ตุลาคมปี 2024

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 14 กรกฏาคม 2567