ผลสำรวจพบชาวจีนยังระวัง-ไม่เดินทางออกต่างประเทศมากอย่างที่คาด กว่า 31% บอกว่าจะไม่เดินทางในปีนี้แน่นอน สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารขาออกจากจีนในไตรมาสแรกของปีนี้ที่ยังน้อย เป็นสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจโลกและไทยที่รอพึ่งนักท่องเที่ยวจีนอาจผิดหวัง-พลาดเป้า  

 

การออกเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก และตอนนี้นานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวในสัดส่วนที่สูง กำลังตั้งตารอคอยการกลับมานักท่องเที่ยวจีน โดยยกให้เป็นหนึ่งความหวังสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจ 

 

แต่หลาย ๆ ประเทศอาจจะต้องผิดหวัง และเศรษฐกิจโลกอาจจะยังไม่ได้รับผลบวกจากปัจจัยการออกท่องเที่ยวของชาวจีนในเร็ว ๆ นี้ เพราะมีข้อมูลการสำรวจออกมาว่า ชาวจีนกว่าครึ่งยังไม่มั่นใจที่จะออกไปเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ 

 

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ว่า ก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 จีนเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวขาออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทำเงินให้เศรษฐกิจโลก 253,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.6 ล้านล้านบาท ในปี 2562

 

ตอนนี้แม้ว่ามาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ ของจีนผ่อนคลายแล้ว แต่เหล่านักท่องเที่ยวจีนยังสงวนท่าทีที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว และมีการเดินทางออกต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากต้นปี 2566 ก่อนที่นโยบายปลอดโควิด (Zero-COVID) จะสิ้นสุดลง 

 

การสำรวจความเห็นของชาวจีนในช่วงก่อนสัปดาห์วันหยุดวันแรงงาน (1 พฤษภาคม) ของประเทศจีน พบว่าชาวจีนมากกว่าครึ่งกล่าวว่าพวกเขายังไม่ได้วางแผนที่จะไปต่างประเทศในปีนี้ โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน 40% ไม่มีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ แม้ว่าจะผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ แล้วก็ตาม และ 31% ปฏิเสธการเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้โดยสิ้นเชิง 

 

ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจโดยบริการวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด Dragon Trail International ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่สำรวจความเห็นชาวจีน 1,012 คนใน 49 เมือง ในช่วงวันที่ 4-7 เมษายน 2566 ก่อนจะถึงสัปดาห์วันแรงงานของจีนในเดือนพฤษภาคมที่หยุดยาว 5 วัน (วันแรงงาน 1 พฤษภาคม)

 

ปัจจัยอันดับแรกในการพิจารณาว่าจะออกเดินทางหรือไม่ คือความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยนอกประเทศจีน เป็นปัจจัยที่สำคัญแซงหน้าปัจจัยความกังวลเรื่องการเงิน และปัจจัยเรื่องเวลาว่างในการเดินทาง 

 

มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 10% ของทั้งหมดที่ได้จองตั๋วการเดินทางออกนอกประเทศในปี 2566 ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ตัดสินใจ หวังว่า (จะสบายใจพอที่) จะได้จองตั๋วเดินทางระหว่างประเทศก่อนสิ้นปี

 

เซียนนา พารูลิส-คุก (Sienna Parulis-Cook) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ Dragon Trai กล่าวว่า “เราไม่ต้องการให้ผลสำรวจนี้บอกเราว่า การฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนยังไม่เป็นไปตามความคาดหวังของจุดหมายปลายทางหลายแห่ง”

 

ผลสำรวจของ Dragon Trail สอดคล้องกับการฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกจากจีน ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 12.4% ของระดับปี 2562 หรือระดับก่อนโควิด และสมาคมสายการบินเอเชีย-แปซิฟิกแอร์ไลน์ (AAPA) คาดการณ์ว่า กว่าที่การเดินทางทางอากาศออกจากจีนจะฟื้นตัวเต็มที่อาจต้องใช้เวลาอีก 1 ปี 

 

ข้อมูลการจองการเดินทางที่ ForwardKeys ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางระดับโลกเปิดเผยในวันที่ 26 เมษายนระบุว่า สำหรับชาวจีนที่ออกเดินทางไปต่างประเทศในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานในต้นเดือนพฤษภาคม มีมาเก๊าและจาการ์ตา (เมืองหลวงของอินโดนีเซีย) เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ในเอเชียที่จำนวนผู้เดินทางฟื้นตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่กรุงไคโร (อียิปต์) และดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ติดอันดับรายการการจองการเดินทางระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน  

 

แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการเดินทางต่างประเทศในปี 2566 แต่ความปรารถนาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะสำรวจโลกยังไม่ลดลง และไม่ได้ลดความสนใจในการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ลงด้วย 

 

ผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่าตัวเองมีโอกาสที่จะเดินทางหรือกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้ เกือบ 75% กล่าวว่าจะเลือกจุดหมายปลายทางในเอเชีย รองลงมาคือยุโรป และเกือบ 2 ใน 3 กล่าวว่าพวกเขาชอบจองแพ็กเกจที่รวมค่าบริการไว้ทั้งหมดแล้วภายในราคาที่ระบุ (all-inclusive package) 

 

หลายสายการบินระหว่างประเทศกำลังกลับมาเปิดบินระหว่างประเทศกับจีนอีกครั้งในสัปดาห์นี้ บริติชแอร์เวย์ (British Airways) กลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงรายวันจากลอนดอนสู่เซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรกในรอบสองปี

 

ส่วนบริษัทนำเที่ยวของจีนได้รับอนุญาตให้ขายแพ็กเกจทัวร์กลุ่มขาออกไปยังจุดหมายปลายทาง 60 แห่ง แม้ว่าจะยังไม่มีสหรัฐอเมริกาในลิสต์ที่อนุญาต แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนยังสามารถเดินทางส่วนบุคคลไปยังสหรัฐอเมริกาและจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ได้ ถ้าได้รับวีซ่าจากประเทศปลายทาง   

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 28 เมษายน 2566