เวียดนามได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบหลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 เร็วกว่าหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาค แต่กระบวนการออกวีซ่าของเวียดนามยังมีข้อจำกัดมากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเวียดนามไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งรัฐบาลได้ยื่นเสนอนโยบายต่างๆเพื่อให้สภาแห่งชาติพิจารณาอนุมัติเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก

 

เวียดนามมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงมาก ด้วยมรดกวัฒนธรรมทั้งรูปธรรมและนามธรรม 23 รายการ เขตสงวนชีวมณฑลโลก 11 แห่งและอุทยานมรดก 10 แห่งที่ได้รับการรับรองจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ซึ่งเป็นความได้เปรียบในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวประเทศเวียดนาม 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาที่ผ่านมา อัตราการฟื้นฟูการท่องเที่ยวก็ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือข้อจำกัดในนโยบายการออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์   ซึ่งมีแต่ประเภท single visa ที่มีอายุ 30 วัน นาย ฝ่ามห่า ซีอีโอของบริษัท Luxury Travel ได้ให้ข้อสังเกตว่า

 

“สำหรับนโยบายดังกล่าว นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าสามารถมาเที่ยวและพำนักในเวียดนามได้เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่ต้องการไปเที่ยวหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการออกทริปเดินทางเพียงครั้งเดียว”

 

เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลได้ยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณาอนุมัติการออก e-visa ให้แก่พลเมืองจากทุกประเทศและดินแดน โดยมีการขยายระยะเวลาการพำนักของชาวต่างชาติสำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าจาก 15 วันเป็น 45 วัน ขยายระยะเวลา e-visa จาก 30 วันเป็น 90 วันและเพิ่มประเภท multiple visaที่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศเวียดนามได้หลายครั้ง โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เผยว่า การที่สภาแห่งชาติอนุมัติข้อเสนอดังกล่าวในการประชุมในเดือนพฤษภาคมจะสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวเวียดนาม

 

บรรดาสถานประกอบการได้ตั้งความหวังเกี่ยวกับนโยบายใหม่ของรัฐบาล ซึ่งเอื้อให้แก่การพัฒนาตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพด้วยการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวและกิจกรรมการเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวของเวียดนามกับประเทศตต่างๆในภูมิภาค เช่น ลาว กัมพูชา ไทยและจีน นาย เลห่งท้าย ผู้อำนวยการบริษัท Hà Nội Tourists ได้เผยว่า

 

“เมื่อก่อนนี้ นักท่องเที่ยวอังกฤษจองทัวร์เวียดนาม 10-12 วัน ซึ่งปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเป็น 19-20 วันและเชื่อมโยงกับทัวร์อื่นๆด้วย”

 

วีซ่าเป็นปัจจัยที่สำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งการเพิ่มจำนวนประเทศและดินแดนที่สามารถขอ e-visa และขยายระยะเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวียดนามจะเป็นแนวทางในเชิงบวกด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ เวียดนามต้องพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายเพื่อกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งผลักดันการประชาสัมพันธ์นโยบายที่สร้างก้าวกระโดดด้านการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ 

 

นาย หวูเท้บิ่ง ประธานสมาคมการท่องเที่ยวเวียดนาม ได้เผยว่า “สำนักงานสื่อสารมวลชนและบริษัทต่างๆต้องผลักดันการประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวเวียดนามมากขึ้น”

 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า การปรับปรุงนโยบายการออกวีซ่ามีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเวียดนาม ซึ่งการที่สภาแห่งชาติอนุมัตินโยบายดังกล่าวของรัฐบาลนั้นจะมีส่วนร่วมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของการท่องเที่ยวเวียดนามในภูมิภาคเพื่อให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 1 พฤษภาคม 2566