จับตาวิกฤตเอลนีโญ ฉุดเศรษฐกิจ 3.6 หมื่นล้าน
ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ได้ประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ “เอลนีโญ” ว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย 36,000 ล้านบาท พร้อมทั้งทำหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เสนอให้เร่งจัดทำมาตรการรับมือภัยแล้ง ทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว ก่อนที่วิกฤตเอลนีโญจะสร้างความเสียหายต่อพืชผลเกษตร ดันให้ต้นทุนราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
สำหรับปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ขณะนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และคาดว่าจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นในฤดูหนาวนี้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่อุ่นกว่าค่าเฉลี่ยในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตะวันออกใกล้เส้นศูนย์สูตร เอลนีโญจะเกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 2-7 ปี
เอลนีโญอาจนำไปสู่การเกิด “อุณหภูมิสูงทุบสถิติใหม่” ผลกระทบขึ้นอยู่กับความแรงของปรากฏการณ์ อาทิ ออสเตรเลียเผชิญกับความแห้งแล้ง และตอนใต้ของสหรัฐเผชิญกับฝนตกหนักมากขึ้น เป็นต้น
ในส่วนของไทย กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าปริมาณฝนในช่วงฤดูฝนปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 5% โดยฝนจะทิ้งช่วงในหลายพื้นที่นานขึ้น โอกาสที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญในช่วงครึ่งหลังปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 55%
โดยโอกาสเกิดสูงจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2-ไตรมาส 4 ปี 2566 และทรงตัวระดับสูงไปจนถึงเดือน ก.พ. 2567 คาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคือ เกิดภาวะแล้งในหลายจังหวัด ปริมาณน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตรไม่เพียงพอ ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ “เกษตรกรจะไม่มีสินค้าไปขาย ขาดรายได้”
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า สินค้าเกษตรได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ เนื่องจากภัยแล้งส่งผลต่อผลผลิตลดลงอย่างมาก
ส่งผลกระทบทั้งด้านปริมาณลดลงและต้นทุนการผลิตสูงขึ้น หรืออาจจะรุนแรงถึงขาดแคลนวัตถุดิบ ทำให้แนวโน้มราคาสินค้าสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารปรับสูงขึ้น เช่น ราคาน้ำตาลตลาดโลกปีนี้พุ่งขึ้นเกินกว่า 27 เซนต์ต่อปอนด์ สูงสุดในรอบ 10 ปี กลายเป็นปัจจัยบวกให้กับ “กลุ่มน้ำตาล” อีกทั้งปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรงอาจกระทบต่อการผลิตน้ำตาลในอินเดียและไทย และอาจกระทบต่อการเก็บเกี่ยวอ้อยในบราซิล
ขณะที่กลุ่มเนื้อสัตว์ได้รับผลกระทบจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น สินค้าทูน่าได้รับผลกระทบจากเอลนีโญจะมีผลต่อราคาทูน่า ผู้ผลิตน้ำผลไม้และเครื่องดื่ม ได้รับผลกระทบจากด้านปริมาณผลผลิตกลุ่มสินค้าผลไม้ และราคาน้ำตาลที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่ได้ปัจจัยบวกจากอากาศที่ร้อน ส่งผลต่อความต้องการบริโภคสินค้าในกลุ่มนี้
ในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรม ก็ได้รับผลจากเอลนีโญเช่นกัน เพราะเอลนีโญส่งผลให้อากาศร้อนมากขึ้น จะเป็นการไปช่วยให้เกิดความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตพัดลมและแอร์ ขณะที่ผู้ผลิตน้ำประปาอาจจะเสียประโยชน์ เมื่อฝนตกน้อยหรือมีน้ำไม่เพียงพอ เป็นต้น
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ผลผลิตพืชไร่ที่เป็นวัตถุดิบจะเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปประสานขอความอนุเคราะห์จากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ช่วยพิจารณาจัดทำฝนหลวงมาช่วยในแหล่งปลูกสับปะรดและข้าวโพดหวานที่เสียหายต่อเนื่อง นับจากปลายปี 2565 ที่เสียหาย 40% จากผลผลิตทั้งหมด 1.4 ล้านตัน ส่วนปี 2566
คาดว่าสับปะรดจะมีปริมาณ 1 ล้านตัน ลดลง 29% ในช่วง 5 เดือนแรก 2566 มีผลผลิตเข้าสู่โรงงานแล้ว 4.2 แสนตัน โดยทางกรมฝนหลวงมีการดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงให้แก่กลุ่มสับปะรดแล้ว แต่ปริมาณน้ำฝนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ”
ส่วนข้าวโพดหวาน ทางสมาคมได้ประสานกรมฝนหลวง เพื่อขอให้มีการจัดทำฝนเทียม เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้พร้อมสำหรับฤดูการผลิตต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีปริมาณ 6.6 แสนตัน เพิ่มขึ้น 53% จากปี 2565 ที่มีปริมาณผลผลิต 4.3 แสนตัน ในช่วง 5 เดือนแรก 2566 มีผลผลิตเข้าสู่โรงงานแล้วจากปี 2565 ที่มีผลผลิต 2.8 แสนตัน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จากเอลนีโญจะทำให้ฝนทิ้งช่วง ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตได้
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้เตรียมพร้อมรับมือเอลนีโญเชิงรุกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติดตามผลการดำเนินงานมาตรการรับมือฤดูแล้ง และหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาพอากาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ยังได้เตรียมแผนปฏิบัติการในการรองรับไว้ล่วงหน้าก่อนเข้าสู่ฤดูฝน
ขณะที่กรมชลประทานยังประชุมหารือถึงการวางแผนจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง พร้อมวางแนวทางรับมือฤดูฝนปี 2566 แบบคู่ขนานกัน ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชน และกลายเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสของประเทศ ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 22 มิถุนายน 2566