ถนนทุกสายมุ่งตรงสู่ "เวียดนาม" ส่องอนาคตอันสดใส ดาวเด่นดวงใหม่ของอาเซียน
* ทำไมใครๆ ก็อยากไปลงทุนที่เวียดนาม
* ส่องอนาคตอันสดใส ดาวเด่นดวงใหม่ของอาเซียน
* Healthtech ธุรกิจสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่น่าจับตามองของเวียดนาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 65 ที่ผ่านมาว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ในไตรมาส 3/65 ขยายตัว 13.67% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่หดตัวลง 6.02% โดยในช่วงเวลาดังกล่าวเวียดนามต้องปิดโรงงานหลายแห่ง ภายใต้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด
โดยการขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 3/65 ถือเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งเศรษฐกิจของเวียดนามก็เริ่มฟื้นตัว จากการที่รัฐบาลประกาศยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด รวมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างของเวียดนามมีการขยายตัว 12.91% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนภาคบริการขยายตัว 18.86% และภาคการเกษตรขยายตัว 3.24% โดยรัฐบาลเวียดนามคาดว่าในปี 2565 นี้เศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตในช่วง 6 ถึง 6.5% ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของเวียดนามคาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 4%
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สอดคล้องกับข้อมูลจาก "ธนาคารกสิกรไทย" ที่ได้เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม พร้อมกับเปิดสาขาที่โฮจิมินห์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งประเมินความน่าสนใจของเวียดนาม เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนดังนี้
* เวียดนามมีศักยภาพในฐานะตลาดขนาดใหญ่และฐานการผลิต
มีประชากรรวม 98.5 ล้านคน และมากกว่าครึ่งหนึ่งอายุต่ำกว่า 35 ปี
เป็นตลาดผู้บริโภคที่น่าสนใจ และกำลังพัฒนาไปสู่ความเป็นเมืองมากขึ้น
มีแรงงานราคาถูกจำนวนมาก ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 139-200 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเดือน คิดเป็นเงินไทยราว 7,000-8,000 บาทต่อเดือน
* เวียดนามมีความได้เปรียบด้านความตกลงทางการค้าทำให้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้ดี
มี FTA ครอบคลุมมากที่สุดในอาเซียน รวมทั้ง CPTPP และ EU-Vietnam สร้างแต้มต่อให้กับนักลงทุนที่เน้นการส่งออก
แนวโน้มการกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนจากสงครามการค้า ทำให้เวียดนามสามารถดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติชั้นนำทั่วโลก
ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามกับโอกาสในระยะข้างหน้า
ถ้าเทียบในอาเซียน เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย (รองจากมาเลเซีย) มีมูลค่าการค้ารวม 19,492 ล้านดอลลาร์ ปี 2564 ขณะที่เวียดนามเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญที่สุดอันดับ 1 ของไทย นอกจากนี้ การผลักดันความสัมพันธ์ของภาครัฐและเอกชนคาดว่าในระยะ 3 ปีข้างหน้ามีโอกาสที่เวียดนามจะขยับเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของไทยในอาเซียนได้
FDI ของเวียดนามแทบไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด :
แม้ว่ามูลค่าการขอรับอนุมัติการลงทุนของเวียดนามจะหดตัวลง 8.1% (yoy) ในครึ่งแรกของปี 65 แต่การลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังเติบโต 26.6% (yoy) เนื่องจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนทำให้บรรษัทข้ามชาติกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนเข้ามาในเวียดนามมากขึ้น
ตัวอย่าง โครงการลงทุนจากต่างประเทศในปี 2020
- Samsung ลงทุนเพิ่ม 920 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการผลิตสมาร์ทโฟน แผงวงจรไฟฟ้า และกล้องดิจิทัล
- Foxxconn ลงทุนเพิ่ม 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการผลิตแท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก
- BYD จะลงทุนเพิ่มใน 268 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการประกอบ iPad
- Lego จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโรงงานผลิตเลโก้ที่ Binh Duong
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้เวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตของภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือตลาดแรงงานขนาดใหญ่และสิทธิพิเศษทางการค้าต่างๆ
ภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม :
ในปี 2564 ไทยเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 6 ของเวียดนาม โดยมีสัดส่วน 3% ของการค้าทั้งหมดของเวียดนาม การค้าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์และสินค้าขั้นกลาง ประกอบด้วยสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้าฟุ่มเฟือย
แนวโน้ม :เวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่ไทยส่งออกมากที่สุดในอาเซียน สินค้าสำคัญประกอบด้วยรถยนต์ สินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุนสำหรับภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภค
โอกาสทางธุรกิจ : ชาวเวียดนามเห็นว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยมีคุณภาพดีและมีราคาไม่สูงเกินไป นอกจากนี้ การออกแบบของสินค้าไทย เช่น เครื่องสำอางระดับบน ของว่าง และเครื่องแต่งบ้าน มีความแตกต่างจากสินค้าที่ผลิตในเวียดนามและจีน
สินค้าของไทยชนิดแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในเวียดนาม และตั้งโรงงานผลิตในเวียดนามนั่นก็คือ ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว ที่ผลิตโดย บริษัท รอแยลฟู้ดส์ จำกัด
กลุ่มธุรกิจ TCP หรือ บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ได้เข้ามาลงทุน และทำตลาดที่เวียดนามมากกว่า 30 ปี โดยขายเครื่องดื่มกระทิงแดง หลังจากนั้นจึงได้เปิดโรงงานผลิต
ปี 2560 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยเบฟ ชนะการประมูล บริษัท ไซง่อนเบียร์ แอลกอฮอล์ เบเวอเรจ หรือ ซาเบโค จากรัฐบาลเวียดนาม
สินค้าจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CFP วางขายเป็นจำนวนมาก และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการบริษัท CFP มีมติอนุมัติให้ C.P. Vietnam Corporation หรือ CPV ซึ่งดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารครบวงจรในประเทศเวียดนามเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์
นิคมอุตสาหกรรมอมตะในเวียดนาม :
สุรกิจ เกียรติธนากร Country Director (Vietnam) บมจ. อมตะ เวียดนาม กล่าวว่า อมตะเข้ามาลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกมานานกว่า 26 ปีแล้ว ซึ่งความน่าสนใจของเวียดนามในมุมมองของนักลงทุนมีหลายอย่าง เช่น ค่าแรงถูก หากคิดเป็นเงินไทยราว 7,000-8,000 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามก็มีสิทธิพิเศษทางการค้าจากประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA กับหลายประเทศ ครอบคลุมมากที่สุดในอาเซียน ทั้ง CPTPP และ EVFTA
สำหรับ อมตะเองก็สนใจลงทุนเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม Amata Bien Hoa จังหวัดด่งนาย ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจทางตอนใต้ของเวียดนามอยู่ไม่ไกลจากเมืองโฮจิมินห์ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง ในจังหวัดกว๋างนิญ อีกด้วย
Healthtech ธุรกิจสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่น่าจับตามองของเวียดนาม :
เวียดนามมีสตาร์ทอัพประมาณ 3,800 บริษัท โดยมี 4 บริษัทที่เป็นยูนิคอร์น ได้แก่ VNG VNPay MoMo และ Sky Mavis นอกจากนี้ยังมี 11 บริษัทมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยการลงทุนในธุรกิจ Digital Payment และ E-commerce ยังได้รับความนิยมสูงสุดในเวียดนาม ขณะที่การลงทุนในธุรกิจเกมออนไลน์มีการเติบโตก้าวกระโดด (+2,813%) และการลงทุนในธุรกิจ Healthcare (+1,016%) ก็เป็นที่จับตามองอยู่ในปัจจุบัน
กสิกรไทย มองว่า เวียดนามเป็นประเทศที่ผู้บริโภคเต็มใจจะจ่ายเงินเพื่อบริการด้าน Health Care มากเมื่อเทียบกับรายได้ โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพสูงถึง 6.6% ของ GDP ขณะเดียวกันเวียดนามยังต้องใช้เวลาอีก 70 ปี จึงจะพัฒนาบริการด้านสาธารณสุขเทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งวัดจากจำนวนแพทย์ต่อประชากรของเวียดนามเทียบกับประเทศ OECD ดังนั้น Telemedicine หรือแพลตฟอร์มพบกับหมอออนไลน์จึงเป็นทางออกสำคัญในการยกระดับการให้บริการ Healthcare ของเวียดนาม
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 3 ตุลาคม 2565